ภัตตานุโมทนากถา (การให้พร) ของพระมงคลเทพมุนี ๖๙ กัณฑ์หลวงปู่วัดปากน้ำ กัณฑ์ที่ ๕๙-๖๙ หน้า 6
หน้าที่ 6 / 43

สรุปเนื้อหา

พระมงคลเทพมุนีได้สอนเรื่องการให้ทานว่าเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการรักษาศาสนาและสร้างสังคมที่สงบสุข โดยการให้ซึ่งกันและกันทำให้เกิดความสุขและความเจริญ ทั้งในระดับครอบครัวและผู้มีจิตอาสา การให้โภชนาหารเป็นการช่วยเหลือที่สำคัญ และผู้ให้จะได้รับผลตอบแทนในรูปของอายุยืน สุขภาพดี และความสุข นอกจากนี้ ภิกษุสามเณรจะให้พรแก่ผู้ให้เพื่อความเป็นสิริมงคลและบรรเทาความทุกข์.

หัวข้อประเด็น

-การให้ทาน
-คุณค่าของการให้
-การให้พรในพระพุทธศาสนา
-เหตุผลที่ทานเป็นสิ่งสำคัญ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) 201 ๖๑ ภัตตานุโมทนากถา ๔ (การให้พร) ๑๖ มกราคม ๒๔๙๘ นโม... โภชน์ ภิกฺขเว ททมาโน... “ทานนี้เป็นเครื่องหล่อเลี้ยงพุทธศาสนาไว้ ถ้าปราศจากทานการให้แล้ว ศาสนาก็ไม่มีเครื่อง หล่อเลี้ยง ทรงอยู่ไม่ได้ ต้องแตกสลายไป ดับไป หายไป” โลกจะอยู่ร่มเย็นเป็นสุข ก็เพราะ “ทาน” การให้ในทางพระพุทธศาสนา ท่านจึงได้วางเป็นตำราไว้ว่า “ทาน” แปลว่าให้ความสุขซึ่งกันและกัน ลักษณะการให้ความสุข เช่น เดิมบิดามารดาให้ ความสุขแก่บุตรธิดาจนเจริญวัย เมื่อท่านแก่ชราบุตรธิดามีหน้าที่ให้อาหารและรางวัลแก่ท่านเช่นกัน ส่วนผู้ครองเรือนก็ให้ซึ่งกันและกัน ภิกษุ สามเณรออกจากเรือน อุบาสกอุบาสิกาก็มีหน้าที่ สงเคราะห์ท่าน โภชน์ ฯ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ทายกผู้ให้ซึ่งโภชนาหาร เรียกว่าให้ฐานะ ๕ ประการ แก่ปฏิคาหก ฐานะ ๕ ประการ คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณ เช่น เมื่อภิกษุสามเณรได้บริโภคอิ่ม ก็มีอายุยืนได้อีก ๗ วัน เจ้าของทานจึงได้อายุ ร่างกายสดชื่น ผ่องใส คือ วรรณะ มีความสุข มีกำลังและมีปัญญา เจ้าของทานได้ฐานะ ๕ ประการ ตั้งแต่เกิดจนตาย คือ ๑. เป็นเหตุให้อายุยืนในชาตินี้ ไม่ตายในปฐมวัย และอยู่จนสิ้นอายุขัย ๒. ผิวพรรณผุดผ่องเสมอ ๓. มีความสุขกายและใจ ในอิริยาบถทั้งสี่ ไม่เศร้าหมองขุ่นมัว ๔. มีกำลัง ๕. เฉลียวฉลาด เมื่อพระภิกษุสามเณรได้รับทาน แล้วก็ทำภัตตานุโมทนาคาถา คือ ให้พรแก่เจ้าของทาน สพพีติโย ฯ ขออันตรายทั้งปวงจงบำราศไป ขอโรคทั้งปวงจงหาย ขออันตรายอย่ามีแก่ท่านเลย ขอท่านจงเป็นผู้อยู่เป็นสุขเถิด ฯ
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หน้าหนังสือทั้งหมด

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More