ข้อความต้นฉบับในหน้า
202 สาระสำคัญพระธรรมเทศนา
นี้เป็นหน้าที่ของผู้ให้พร ผู้ซึ่งมีการเรียนคันถธุระ หรือวิปัสสนาธุระแล้ว เมื่อตั้งใจให้ตรงต่อ
พรนี้ พรอันนี้ก็จะสำเร็จต่อผู้บริจาคทานหาน้อยไม่ ให้ตั้งใจว่า
“ตัวมีความดีงามอย่างไร ในทางคันถธุระก็ดี วิปัสสนาธุระก็ดี ความดี
งามอันนั้นเป็นตัวยืน ด้วยอำนาจความดี ความบริสุทธิ์ของตนนั้น ขออำนาจ
พระพุทธเจ้า...”
ทานที่ทายกอุทิศให้แก่ผู้อยู่ปรโลก ไม่ได้เป็นของง่าย แม้ท่านอุทิศบุญส่งไปให้จริง มนุษย์ที่
ตายตกอยู่ในนรก เป็นสัตว์เดรัจฉานก็รับไม่ได้ หรือแม้เทวดา ถ้าเขาไม่ได้อุทิศให้ ไม่รู้ส่วนบุญนี้ก็
รับไม่ได้ เว้นไว้แต่ปรทัตตูปชีวิเปรต ที่คอยรับส่วนบุญ
สมัยพุทธกาล ญาติของพระเจ้าพิมพิสาร ก็ได้รับส่วนบุญที่ส่งอุทิศไปให้เช่นนี้ จึงไม่ใช่ของง่าย
“ถ้าว่ามีธรรมกาย ง่ายเต็มที่ ทำบุญเท่าไรได้หมด เพราะเหตุว่าธรรมกาย
นำไป บอกว่าให้อนุโมทนา ก็ได้สำเร็จสมความปรารถนา แม้จะไปตกนรก ธรรม
กาย นำส่วนกุศล ที่ญาติอุทิศ ส่งไปให้ถึงนรก ก็ได้รับส่วนกุศลสมมาดปรารถนา
พ้นจากนรกทีเดียว ถ้าว่าเป็นเทวดาบุญหนักศักดิ์ใหญ่ ได้สูงขึ้นไป ถ้าได้เกิด
เป็นสัตว์เดรัจฉานเป็นมนุษย์ได้ ไปให้แก่กายละเอียด ถ้ากายมนุษย์ไม่รู้เรื่อง ให้
กายมนุษย์ละเอียดที่ฝันออกไป กายทิพย์ กายทิพย์ละเอียดได้ แต่ว่ากายมนุษย์
ไม่รู้เรื่อง”
การให้ส่วนบุญไม่ใช่ของง่าย บุญที่ทำเหมือนน้ำไหลลงสู่ที่ต่ำ แต่ว่าเมื่อไม่ได้รับก็ไม่
สมปรารถนา
พระภิกษุเวลาให้พร จึงขอให้สมความปรารถนาที่ตั้งไว้แล้ว ให้เหมือนพระจันทร์ข้างขึ้น หรือ
แก้วมณีโชติรสที่สว่างไสว แล้วพระภิกษุอันดับรองลงมาก็รับว่า “สัพพีติโย” ตอนท้ายท่านขอ
อานุภาพแห่งพระพุทธเจ้าทั้งปวง อานุภาพพระธรรมทั้งปวง และอานุภาพพระสงฆ์ทั้งปวง ที่เรียก
ว่า “พุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ” เพื่อให้ท่านช่วยเรา
พุทธานุภาพ พระเทวทัตประทุษร้ายพระพุทธเจ้า จนกระทั่งเกิดสังฆเภท เมื่อเจ็บไข้ขึ้นจะมา
เฝ้าพระพุทธเจ้า พระองค์ทรงรับสั่งว่า ไม่เห็นเราผู้ตถาคตหรอก พุทธานุภาพที่รับสั่งนั้น แผ่นดิน
แยกสูบพระเทวทัตไปเข้าอเวจี
ธรรมานุภาพ รักษาเราไว้ให้เป็นมนุษย์ เป็นเทวดา พรหม อรูปพรหม ตรงข้ามคือ อธรรมา
นุภาพ ทำให้เป็นทุกข์ เป็นเปรต อสุรกาย สัตว์ต่างๆ
สังฆานุภาพ อานุภาพของพระสงฆ์รักษาพระศาสนาไว้ให้รุ่งเรือง ให้เราได้ยินได้ฟังจนมาบวช
พุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ ปรากฏขึ้นได้เพราะอาศัยทาน
พระพุทธเจ้า ถ้าว่าไม่ได้เสวยข้าวของนางสุชาดา ๔๙ ก้อนนั้น ก็ไม่ได้พุทธานุภาพเสียแล้ว
แตกสลายเสียแล้ว
มนุษย์ถ้าอยู่ในพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ สิ่งหนึ่งสิ่งใดก็มาทำอันตรายไม่ได้
เพราะฉะนั้นผู้ให้ทานจึงตั้งใจอธิษฐานว่า ด้วยอาหารนี้ ให้รักษาพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆา
นุภาพไว้