ข้อความต้นฉบับในหน้า
204 สาระสำคัญพระธรรมเทศนา
ดังต่อไปนี้
๖๒
อริยธนคาถา ต
(ทรัพย์อันประเสริฐของพระอริยเจ้า)
๒๓ มกราคม ๒๔๙๘
นโม.....
ยสฺส สิทธา ตถาคเต.....
คุณสมบัติ ๔ ประการ ในการวางความเชื่อของคฤหัสถ์ และบรรพชิต เพื่อเดินให้ถูกทางมรรคผล
ยสฺส สทฺธา ฯ ด. ความเชื่อของบุคคลใดไม่กลับกลอก ตั้งมั่นดีแล้วในตถาคตเจ้า
๒. ศีลอันดีงาม อันพระตถาคตเจ้าใคร่สรรเสริญแล้ว
๓. ความเชื่อในพระสงฆ์
๔. ความเห็นตรง
นักปราชญ์ทั้งหลายกล่าวว่า บุคคลนั้นไม่จน เป็นคนมั่งมี ความเป็นอยู่ของบุคคลนั้น ไม่
เปล่าประโยชน์
0.
ความเชื่อของบุคคลใดไม่กลับกลอก ตั้งมั่นดีแล้วในพระตถาคตเจ้า หรือธรรมกาย
“ตถาคต” คือ “ธรรมกาย” ตามวาระบาลีว่า
ตถาคตสฺส โข ฯ ดูก่อนวาเสฏฐโคตรทั้งหลาย คำว่าธรรมกาย เป็นตถาคตโดยแท้
ธมฺมกาโย อห์ อิติปิ เราตถาคต คือ ธรรมกาย
“แปลบาลีศัพท์หนึ่งแปลได้ตั้งร้อย ผู้รู้น้อยว่าแปลผิด ไม่ถูก นี่แปลอย่างนี้ถูกเกินถูกอีก”
พระอริยบุคคล ล้วนมีใจตั้งอยู่ในธรรมกายทั้งนั้น เราต้องตั้งมั่นลงไปในพระธรรมกายให้ถูก
ด้วยการทำใจหยุดอยู่ศูนย์กลางดวงธรรมที่ทำให้เป็นธรรมกาย ที่ว่าใจไม่ง่อนแง่น คือ การตั้งใจไว้ใน
ดวงธรรมนี้ แล้วเข้าถึงธรรมกายให้ได้ จะเหาะเหินเดินอากาศก็ต้องทำเช่นนี้ก่อน แล้วจะเป็นผู้
ประพฤติเบาทั้งกาย วาจา ใจ
ต้องวางใจเช่นนี้ให้จริง อย่าลอกแลก โกงตัวเอง
“บัดนี้ วัดปากน้ำมี ๑๕๐ กว่าคน ใจหยุดอยู่ศูนย์กลางดวงธรรมที่ทำให้
เป็น ธรรมกายได้ ๑๕๐ กว่า ที่เข้าไม่ถึงก็เพราะประมาทเลินเล่อเผลอตัว ทำไม่
จริง เข้าไม่จริง จรดไม่จริง ตั้งไม่จริง ลอกแลก เช่นนี้โกงตัวเอง เมื่อโกง
ตัวเองเสียแล้ว เข้าถึงธรรมกายไม่ได้