ข้อความต้นฉบับในหน้า
อาหารที่ปรุงเสร็จ ลูกๆจะช่วยกันยกออกไป
ตั้งโต๊ะขายที่ปากซอยสี่พระยา ตักใส่กระทงให้ลูกค้า
เพราะสมัยนั้นยังไม่มีถุงพลาสติก อาหารมีหลายสิบอย่าง
รวมทั้งกั้งดอง ที่เป็นเหตุให้เสี่ยจิวเลี้ยงต้องทำบาปด้วย
การจับกุ้งเป็นๆ มาล้างขี้ดินออกด้วยน้ำสะ
ด้วยน้ำสะอาดแล้วปล่อย
ให้มันวิ่งลงในหม้อต้มนํ้าปลาที่เย็นลงแล้ว แล้วยังมีผัด
ใบปอ ถั่วทอด จับฉ่าย หมูต้มเค็ม ไก่ต้ม หมูพะโล
เป็ดพะโล้ ปลานึ่งผสมเครื่องปรุง และข้าวขาหมูมีชื่อ
เพื่อนฝูงเคยมาดูออกปากชมว่ากับข้าวน่ากินทั้งนั้น
พองานบ้านเสร็จ แม่จะพาลูกเล็กๆ ข้ามถนนไป
ทอผ้าใกล้วัดหัวลำโพง มือวางจะหันมาแกว่งเปล ครั้น
ลูกโตขึ้น แม่ไปทอผ้าไหมทำเนคไทใกล้วัดสามง่าม
ลูกๆคนโตอายุ 7-8 ขวบ ยังช่วยทำกับข้าวขายไม่ได้
แต่ก็ต้องช่วยพ่อแม่ตามประสาเด็ก คอยอุ้มน้องให้แม่
รับจ้างหาบน้ำ เลี้ยงเด็ก อายุได้ 12-13 ปี ก็เริ่มหัด
ทอผ้าขาวม้า ถึงที่บ้านจะไม่ค่อยพอกิน แต่เตีย
จะไม่ยอมพูดว่า “ไม่มี” เป็นอันขาด เฝ้าแต่บอกว่า
“เดี๋ยวมี เดี๋ยวหามาให้” แล้วซื้อข้าวสารมาไว้ในบ้าน
มากๆ พอข้างบ้านซื้อมะม่วง ทุเรียนกิน เสี่ยบอกว่า
มีข้าวกินก็พอแล้ว ไว้ให้เสี่ยรวยก่อน ผ้าขาด จะ
พ
กฎแห่งกรรม 11