ข้อความต้นฉบับในหน้า
จิตของตนให้เป็นไปในอำนาจ แล้วบำเพ็ญสมธรรมเล่า
สามเณรเดินต่อไป เห็นช่างครักกำลังเอาลูกครศลไฟ เล็งด้วยหางตา แล้วดัดให้ตรง จึงเรียนถามพระเณรว่า “พวกเขาทำอะไรกัน ขอรับ?”
พระเณรวตอบว่า “เขาเอาลูกครศลไฟ แล้วดัดให้ตรง” “แล้วลูกครมีจิตไหม ขอรับ?” พระเณรวตอบว่า “ไม่มีจิต”
สามเณรคิดว่า “ถ้าคนทั้งหลายถือเอาลูกครศลไม่มีจิต ลนไฟแล้วดัดให้ตรงได้ เพราะเหตุไรคนซึ่งมีจิตจะไม่อาจทำจิตของตนให้เป็นไปในอำนาจ แล้วบำเพ็ญสมธรรมเล่า”
ครั้นสามเณรเดินต่อไป เห็นช่างไม้กำลังตากไม้ เพื่อทำกางและดมล้อเกวียน จึงเรียนถามพระเณรว่า “เขาถากไม้เพื่อทำอะไรกัน ขอรับ?” พระเณรวตอบว่า “เขาถากไม้เพื่อทำล้อของเกวียน” สามเณรถามต่อ “แล้วไม้เหล่านั้นมีจิตไหม ขอรับ?” พระเณรวตอบว่า “ไม่มจิต”
สามเณรได้มีความคิดเห็นขึ้นมาว่า “ถ้าคนทั้งหลายถือเอาไม้ที่ไม่มีจิต ทำเป็นล้อได้ เพราะเหตุใด คนผู้มีจิตจึงไม่อาจทำจิตของตนให้เป็นไปในอำนาจ แล้วบำเพ็ญสมธรรมเล่า”
เมื่อสามเณรขบคิดได้เห็นสิ่งต่างๆ แล้วจึงพิจารณาอย่างแชบนคาย จึงได้ทราบเรียนพระเณรว่า “กระผมจะขอกลับวัดก่อน ขอให้พระอาจารย์กรุณานำเอาอาหารที่มีปลายเพียรมาให้กระผมด้วย ขอรับ” พระเณรจงกล่าวว่า “เราาจากได้จากที่ไหนล่ะ สามเณร?” สามเณรตอบ “หาถูไม่ได้ด้วยบุญของท่านอาจารย์ ก็จะได้ด้วยบุญของกระผม ขอรับ”
พระสารีบุตรตราบจงงหมายของสามเณร จึงอนุญาตให้กลับ เมื่อสามเณรกลับมาถึงที่แล้ว ก็ถึงใจนำสมาธิ. เจริญสมาธิอธิษฐาน ทำใจหยุดใจนิ่งอย่างแน่แน่ ฝ่ายพระสารีบุตรได้บิณฑบาตไปจนถึงเรือนของอุปัฏฐากท่านหนึ่ง วันั้นอุปัฏฐากได้ปลาตะเพียนมาหลายตัว จึงนำมาปรุงเป็นอาหาร เมื่อเห็นพระเณรจากดีใจ นิมนต์ให้ท่านรับบิณฑบาต ได้ถวาย