การเข้าถึงกายธรรมในพระพุทธศาสนา รวมพระธรรมเทศนา ๓ หน้า 28
หน้าที่ 28 / 71

สรุปเนื้อหา

บทความนี้พูดถึงการเข้าถึงกายธรรมในสายพระพุทธศาสนา โดยเริ่มจากความเข้าใจเกี่ยวกับกายธรรม โดยเฉพาะในช่วงเริ่มต้นที่เรียกว่ากายธรรมโคตรา รวมถึงการลดละสังโยชน์ต่างๆ ตามลำดับของขั้นพระอริยะเจ้า เช่น พระสกทาคามิ พระอนาคามี และพระอรหันต์ ซึ่งเข้าถึงสภาวะที่ไม่มีการปิดบังของธรรมลักษณะและคุณธรรมต่างๆ การมีมโนปัญญาที่ชัดเจน และการปฏิบัติตามความเป็นจริงเพื่อการตื่นรู้ สรุปได้ว่าในประวัติของพระพุทธศาสนามีตัวอย่างเด็กน้อยที่มีการขออนุญาตองค์บิดามารดาเพื่อบวชเรียน และกระตือรือร้นในการเรียนรู้ธรรมะ ตั้งแต่วัยเยาว์ ทำให้เห็นถึงความสำคัญของการตระหนักรู้ในความไม่มีจิต ของธรรมชาติและความหมายของการเข้าใจในธรรมอันลึกซึ้ง.

หัวข้อประเด็น

- กายธรรม
- การเข้าถึงพระอริยะ
- ปัญญาและการตื่นรู้
- ประวัติพระพุทธศาสนา
- หมายความของสังโยชน์

ข้อความต้นฉบับในหน้า

รวมพระธรรมเทศนา : พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ไชยบูลย์ ธรรมโชโต) 28 พอเข้าถึงกายธรรม เราจะรู้ถึงในพังกสาม โคนันต์ นิพพาน รู้ทั่วหมด ทั้งรู้ทั้งเห็น อติ" ปัจจุบัน อนาคต ทะลุรูปธัมไปร่มหมด รู้เห็นทุกสิ่งไปตามความเป็นจริง กายธรรมเป็นายเป็นสมบูรณ์ด้วยลักษณะมหาบุรุษทุกประการ งามไม่ดี เป็นพุทธตะนะ เป็นผูรู้ ผีบาน แล้ว เป็นผูแจ้งเห็นแจ้งแทงตลอด เพราะรู้ได้รอบตัว เห็นได้รอบตัว ไม่มีอะไรน่าบังขอบข่ายของธรรมลักษณะและคุณธรรสะแนะ เป็นผู้ตื่นจากโลกลทั้งหลาย จิตใจเบิกบาน สว่างไสว มีความบริสุทธิ์ มีดวงปัญญาอันเลิศ และมีมาราภาวะริต คุณงามงามร่วมกันอยู่ในกายธรรม ดังนั้นกายธรรม จึงเป็นจุดเริ่มต้นของพระพุทธศาสนา กายธรรมเบื้องต้น เรียกว่ากายธรรมโคตรา คือลักษณะของปฐพี แต่ยังไม่เป็นพระอริเจ้า พอเข้าถึงกายธรรมพระโลดาน ละสังโยชน์เบื้องต่ำได้ ๓ อย่าง กิเลสเบาบางลงไป พอเข้าถึงกายธรรมพระสกทาคามิ กิเลสก็บาบางลงเบิก เข้าถึงกายธรรมพระอนาคามี ละสังโยชน์เบื้องต่ำได้หมด เข้าถึงกายธรรมพระอรหันต์ ละสังโยชน์เบื้องต่ำเบื้องสูงหมด สิ้นชื่อไม่เหลือ เฉย ไม่มีไรามีปิดบังธรรมลักษณะและคุณธรรสะแนะของกายธรรมพระอรหันต์ได้ กายธรรมอรหันต์นี้แล้วล้อว่า เป็นบันฑิตที่แท้จริง ในสมัยพุทธกาล มีเด็กน้อยคนหนึ่งชื่อว่า "บัณฑิต" เมื่ออายุ ๗ ขวบได้ขออนุญาตบิดามารดาออกบวช เป็น สามเณรอยู่ในสำนักของพระสารีบุตร ในวันที่ ๘ ของการบวช ขณะทีสามเณรบุตรออกกำลังกายเดินนบบาทตามหลังพระเณรอยู่บั้น ได้เห็นหิ้งน่าแห่งหนึ่ง สามเณรจึงได้เรียนถามพระสารีบุตรว่า "สิ่งนี้เขาเรียกว่าอะไร มีอะไรทำอะไร ขอรับ?" พระสารีบุตรตอบ "เขาเรียกว่าเหงื่อ มีไว้สำหรับไขมันเข้าไปในนาข้าว" สามเณรถามต่อ "น้ำมีจิตไหม ขอรับ?" พระเณรตอบว่า "ไม่มีจิต" สามเณรเกิดความคิดว่า "ถาคนทั้งหลายไข้ซึ่งไม่มีจิต เข้าไปสู่ที่ที่ปรารถนา แล้วทำงานได้ดีๆ จะไม่อาจทำ
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หน้าหนังสือทั้งหมด

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More