ข้อความต้นฉบับในหน้า
เหตุร้ายเช่นนั้น ก็พลันตกใจกลัวตัวสั่นระรัวร้องเอะอะโวยวาย วิ่ง
เข้าไปยุดชายจีวรทรงขององค์พระอรหันต์ ปากก็ร้องลั่นขอให้
ช่วยป้องกันอันตรายอันจะเกิดจากพวกนางผีร้ายเหล่านั้นด้วย
เหล่าพระอรหันต์ผู้ทรงฌานอภิญญา ท่านหันหน้ามา
ปรึกษากันซุบซิบ แล้วก็พากันรีบหยิบเอาดินมาปั้นเป็นรูป มนุสีหะ
คือ เป็นรูปมนุษย์ติดกันสองตัว แต่มีหัวเป็นราชสีห์หัวเดียว แล้ว
อธิษฐานด้วยอรหันต์ฤทธิ์เร็วพลัน ให้มนุสีหะนั้นวิ่งไล่ขบกัดเหล่า
นางยักขิณีผีเสื้อน้าเป็นพัลวัน ไม่ช้านานพวกนางตัวร้ายต่างก็
พากันวิ่งหนีเตลิดเปิดเปิงลงไปในมหาสมุทรทั้งโขยง
สมเด็จพระเจ้าสิริมาโสกราชาธิบดีพร้อมทั้งมหาชนชาว
เมืองสุธรรม ประสบพบเห็นปาฏิหาริย์มหัศจรรย์เพียงเท่านี้ ก็ให้
มีจิตเคารพเลื่อมใสเป็นหนักหนา จึงเมื่อคณะพระอรหันต์ท่านจะ
ว่าจะสั่งสอนสิ่งใด ก็ตั้งใจเคารพเชื่อฟังด้วยดี เลยมีกฎประเพณี
สืบต่อกันมาแต่ครั้งนั้น ให้เขียนรูปมนุสีหะลงไปในใบตาลหรือใบ
เสม็ดมอบให้ทารกเกิดใหม่ติดประจํากายไว้ เพื่อป้องกันภัยจาก
นางยักขิณีผีร้ายจงทั่วทุกคน
ครั้นพิจารณาเห็นมหาชนพากันเคารพเลื่อมใสด้วยดีแล้ว
พระโสณะและพระอุตตระอรหันต์ผู้ทรงฌานอภิญญา ก็ถือโอกาส
แสดงพระธรรมเทศนาพรหมชาลสูตร ในเมืองสุธรรมนั้น พอจบ