ประวัติและความสำคัญของพระอาจารย์มหาสี สะยาดอร์ วิปัสสนาวงศ์ หน้า 93
หน้าที่ 93 / 121

สรุปเนื้อหา

บทความนี้เล่าถึงการก่อตั้งสำนักวิปัสสนากรรมฐานที่วัดมหาสีในเมืองสวยะโปเมื่อปี 2484 โดยพระอาจารย์มหาสี สะยาดอร์ ผู้ทำหน้าที่เป็นพระวิปัสสนาจารย์ในการสอนกรรมฐานแก่บรรพชิตและชาวบ้าน ชื่อเสียงของท่านได้ฟุ้งขจรไปไกล ทำให้ประชาชนเรียกท่านว่า พระอาจารย์มหาสี สะยาดอร์ ด้วยความเคารพและศรัทธา นอกจากนี้ยังมีการอธิบายถึงที่มาชื่อวัดและความสำคัญของกลองใบใหญ่ที่ตั้งอยู่ที่วัด เพราะมีความหมายเชิงสัญลักษณ์ต่อการปฏิบัติธรรมในลักษณะของวิปัสสนากรรมฐาน โดยท่านมุ่งมั่นในการบรรพชิตและการแพร่กระจายแนวทางการปฏิบัติธรรมในวงกว้างเพื่อประโยชน์ของมวลชน

หัวข้อประเด็น

-ประวัติพระอาจารย์มหาสี สะยาดอร์
-การตั้งสำนักวิปัสสนากรรมฐาน
-ความสำคัญของวัดมหาสี
-ภาษามคธและพม่าในชื่อวัด
-บทบาทชุมชนในการปฏิบัติธรรม

ข้อความต้นฉบับในหน้า

สวยะโบอีกครั้งหนึ่ง และจึงตั้งสำนักวิปัสสนากรรมฐานขึ้นที่วัดมหา สี ตำบลเชตโข่น เมืองสวยะโป เมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๘๔ เมื่อจัดตั้งสำนักปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานขึ้นแล้ว ท่านก็ เริ่มบำเพ็ญศาสนกิจในด้านวิปัสสนาธุระอย่างจริงจังในสำนัก วิปัสสนาแห่งนั้น โดยท่านทำหน้าที่เป็นพระวิปัสสนาจารย์บอก กรรมฐานแก่บรรพชิตและชาวบ้านทั่วไป ไม่นานเท่าใด กิตติศัพท์ชื่อเสียงของท่านก็ค่อยฟุ้งขจร ไปไกล ในขณะนี้มหาชนมักเรียกท่านอย่างติดปากอีกนามหนึ่งว่า พระอาจารย์มหาสี สะยาดอร์ การที่พวกเขาพอใจที่จะเรียกขานท่าน เช่นนี้ ก็เพราะมีสมุฏฐานง่ายๆ มาจากชื่อวัดที่ท่านตั้งเป็นสํานัก วิปัสสนากรรมฐานนั่นเอง คือ วัดนั้นเดิมชื่อว่าวัดมหาสี คำว่า มหา เป็นภาษามคธ แปลว่าใหญ่ คำว่า สี เป็นภาษาพม่า แปลว่า กลอง เมื่อเอาคำสองคำนี้มารวมกันเข้า ก็เป็นคำว่า มหาสี แปลว่า กลอง ใบใหญ่ เหตุที่วัดนั้นมีชื่อว่า มหาสี(กลองใบใหญ่) ก็เพราะว่าที่วัด นั้นมีกลองใบใหญ่อยู่ใบหนึ่ง ครั้นเมื่อท่านอาจารย์พระโสภณมหา เถระ ธัมมาจริยะ มาตั้งสำนักปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานขึ้นที่วัดมหาสี จนมีกิตติศัพท์ชื่อเสียงเกรียงไกร เป็นที่ยอมรับนับถือของคนทั่วไป พวกเขาจึงพอใจที่จะเรียกท่านด้วยศรัทธาเลื่อมใส ให้เป็นที่รู้กัน ง่ายๆว่า พระอาจารย์มหาสี สะยาดอร์
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More