ข้อความต้นฉบับในหน้า
หลวงพ่อถามเขาว่า 'แล้วเจาเวลาที่ไหนไปพัก' เขาตอบว่า 'พักในรถระหว่างเดินทางนั่งรถชาติไปและขากลับ' เขาขออยากได้ญกลับไปมา ๆ มาเอาบุญ อะไรทุกอย่างที่เป็นบุญเขาปลื้มไปหมดทุกอย่าง ซึ่งมหัศจรรย์มาก พรุ่งนี้พวกเขาจะกลับกันแล้ว แต่จะไปเปลี่ยนให้ญาติพี่น้องชุดใหม่มาอีก ซึ่งเขาเป็นแบบนี้กันทั้งทีม หลวงพ่อดูหน้าแต่ละคนดูสดใส ดูไม่อาเจียนอดนอนกันมาสักวันหนึ่ง ระหว่างที่เขาโปรยกลิ่นดอกดาวเรืองรับพระธุงค์ก็กล่าวสาร ปลื้มปิติ กัน เขาลิ้มในทุก ๆ บุญ ซึ่งชาวไทยทุกคนแม่สายนี้ จะออกนอกพื้นที่แต่ละครั้งก็ต้องทำเรื่องขออนุญาต พอตึงกำหนดเวลากลับก็ต้องกลับตามเวลาที่ขออนุญาตออกมานอกพื้นที่ แต่พวกเขายังดูสดใสกันมาก
ส่วนอีกชุดเป็นชาวมอญที่อยู่ในเมียนมาร์ทำงานที่มหาชัย ได้พาเมียชาวเมียนมาร่วมด้วย หลายท่านแต่งชุดสีชมพูพูดเป็นระเบียบเรียบร้อย เขาตั้งใจมาแสดงบุญกันจริง ๆ แดดจะร้อนอย่างไรก็ทนเพื่อเอาบุญจริง ๆ เขาปลื้มกันมาก ชาวเมียนมาร้องว่า ยังไม่อยากกลับไปเมียนมาร์ ซึ่งเขาจะมีความเคารพ และศรัทธาพระมาก ทำอย่างไรเราจะได้อย่างนั้นบ้าง คำพูดจะใส ๆ ตรง ๆ สมัยก่อนหลวงพ่อเจอแต่คนใส ๆ แบบนี้ หาสิบปีผ่านไปมันแตกต่างจากเมื่อก่อนมาก ซึ่งเกิดจากสังคมเปลี่ยนไปเป็นวัฏฏียม เมื่อก่อนชาวไทยจะใส ๆ ชื่อ ๆ ดี ๆ ว่าเมืองไทยอยู่กว่านี้มาก ถึงแม้อะไรจะไม่สะดวกสบายน่ะ สมัยนี้เมืองไทยอยู่กว่านี้มาก ถึงแม้จะไม่สบายน่ะ สบายก็ไม่ได้มาก ผู้นำคณะราษฎรยกว่ามาจากในเมืองไทย ทำงานส่งเงินไปให้รรยาสำหรับฝากให้ไปทำบุญกับวัดในเมียนมาร์ สมัยรรยายค่านี้จะใส ๆ ชื่อ ๆ เขาจะคอยบอกว่ารรรยาอยู่บ่อย ๆ ไม่ชอบใจรรรยา บรรยายว่าถึงทำงานอะไร ตัวเองจะคอยถามเงินส่งให้ใช้ ต่อมามีเหตุทำให้รรยายต้องมาพล่ามที่เมืองไทยเพราะรรยาเปลี่ยนไป เมื่อมายถึงเมืองไทยแล้ว ตัวเองได้มาเล่าเรื่องนี้ให้กับผู้นำบุญคนหนึ่งฟัง ซึ่งผู้นำบุญก็ถามว่า สามีเปลี่ยนไปอย่างไร ตัวเธอบอกว่า "สามีสนให้ท้อง สนมา อะระหัง" ซึ่งตนเองก็ไม่เข้าใจมาหทีเมื่อเมืองไทย และได้ไปร่วมโปรยกลิ่นดอกดาวเรืองด้วย ซึ่งเธอก็ปลื้มมาก ผู้นำบุญของเราก็ถามรรยายว่า "สามีคุณน่ะ ขอโบได้มั้ย" รรรยายชาวเมียนมาครามว่า "ขอไปทำอะไร" ผู้นำบุญของ
สรุปโอวาทประจำวัน มกราคาม พ.ศ. ๒๕๖๗ ๑