ข้อความต้นฉบับในหน้า
> วันจันทร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๗ (เวลา ๒๓.๐๙ น.)
(พระลูกชาย: คืนนีมีใม่นั่งเนสซซๆ กันเยอะครับ สำหรับพระ อุบาส
นั่งที่หอหลวงปู่ เขาจะเปิดให้นั่งถึงเช้า วันนี้โนโลกก็เปิดให้พระนั่ง
เหมือนกันครับ) สาธุจงเลย ให้ลูกๆ ตั้งใจปฏิบัติธรรมเพื่อบูชาธรรม
พระเดชพระคุณหลวงปู่ให้เกิดกระแสการนั่งธรรมะ โดยเฉพาะปรารถนาเหตุ
วันครูผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย บูชาธรรมพระเดชพระคุณหลวงปู่ ทำให้เป็น
ธรรมเนียมปฏิบัติ เป็นอธิปถ้าบัน ใจจะได้ละเอียดกัน เสียดายสาธุ
หลวงพ่อไม่อำนวย ลูกๆ ทำเทหนหลวงพ่อกันนะ
> วันพุธที่ ๑๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๗ (เวลา ๒๑.๓๐ น.)
เขาเอาภาพผูกกระดิ่งสน่มก่อนมาให้ดู เก่งนะ เดินขึ้นไปกันได้
ตอนนั้นหลวงพ่อขึ้นซิลคอปเตอร์ไปสต๑-๓ ครั้ง เป็นของเกษตรกับของ
ทหาร มองจากในซิลคอปเตอร์จะเห็นทะลูพื้น ตอนนั้นยังไม่รู้เรื่องอะไง
จึงไม่ค่อยกลัว มีอยู่ครั้งหนึ่ง อยากจะถูกกระดิ่งระดับสายตา ให้เขาขับลง
มาในแนวดิ่ง เพราะอยากรู้ว่าเป็นยังไง พื้นที่เรียบไหม ซึ่งคนขับบอก
ทีหลังว่า เสียงมาก เพราะมีสนิมโมเขา ตอนนั้นหลวงพ่อไม่รู้ว่าเขาขับไป
เพิ่งมารู้ทีหลัง เพราะคนขับมาเปิดเผยว่า ถ้ามไม่มากับหลวงพ่อ ผมคง
ไม่ทำแบบนี้ !! แล้วไม่บอกหลวงพ่อ ตั้งแต่แรก เพราะมันเสี่ยงมาก แต่ที่
นั่นก็มีพระไปอยู่ดุดับครับ เห็นท่านเดินนิ่งบาด ๒-๓ องค์
หลวงพ่อกลับสะท้อนก็เคยไปปลิวิกเวทกันนี้นะ เวลาท่านเดินจงกรม
ครั้งหนึ่ง ๑ กิโลเมตร ซึ่งปกติระยะทางเดินจงกรมทั่วไปจะสั้นๆ ท่านบอก
กับหลวงพ่อว่า ท่านธรรมนโม้ ต้องยึด ๙ ตัว อย่ายืนตัวโอ้ ให้เดินอย่าง
องอาจ นี่คืออัธยาศัยของท่าน
ท่านเล่าให้หลวงพ่อฟังว่า มืออยู่วันหนึ่งขณะเดินจงกรมอยู่ ท่านเห็น
เทพอิทธิด้วยตาเนื้อ ตอนแรกก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร ตอนแรกกายจะใหญ่ๆ แล้ว
ก็ลงมาเท่ากับคนปกติ เวลาพูดปากไม่ยับแต่ได้ยินเสียงชัดเจน เขาพูด
ว่า ได้เห็นพระคุณเจ้าเดินจงคง มีข้อวัตรปฏิบัติที่ดีจึงเกิดศรัทธา ถ้านั่น
สรุปโอวาทประจำวัน
กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๗ ๑๑