ข้อความต้นฉบับในหน้า
> วันเสาร์ที่ ๑๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๗
วันนี้ หลวงพ่อไปพบเด็กคนหนึ่งชื่อ อชิต อยู่บูบา ๓ หลวงพ่อถาม “๑ แสนล้านองใฆ ขบวก ๑ แสนล้านองใฆ ได้เท่าไหร่?” อชิตตอบว่า “๒ แสนล้านองใฆครับ” หลวงพ่อก็ถามว่า องใฆเปล่าว่าอะไรลูก อชิตก็ตอบว่า “แปลว่าโลกโกด์ขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็เสื่อมไปครับ” เดี๋ยวนี้ หลวงพ่อไปถึงนี้แล้ว คือครูที่โรงเรียนบอกว่า อชิตเป็นเด็กสมาธิสั้น แต่ความจริง อชิตดังกิรสมาธิหนึ่งชั่วโมงไม่กระดิกเลย (อยากจะเอาครูมานั่งแข่งกับอชิต) ครูจึงแนะนำให้ อชิตไปหาหมอเพราะสมาธิสั้น แต่ถ้าชิตหากะเมนต์สีลกากแล้วบอกว่า “เห็นองค์พระท่านนั่งเฉย ๆ” บอกกับแม่ของเขา แม่บอกชม ๆ อย่างนี้ดีย่อมองค์พระหยาบ อชิตบอกว่า “ไม่หยาด” ว่าแล้วก็หกกะเมนต์สีลกาก ทำให้ไม่ดูเดอะ อันดับบอกว่ากบว่าทำบาปแล้วดวงแก้เป็นสีดำแล้วจะไปบ่าย” เก่งนะสอนให้ด้วย อชิตชอบภาษาต่างประเทศ ไม่ค่อยชอบภาษาไทย ถ้าหากจะให้อชิตอยู่ยิ่ง ๆ เฉย ๆ ก็ต้องหาแรงจูงใจ หลวงพ่อบอกวิธีการให้แม่อชิตไปแล้ว เด็กในวัยนี้ กล้ามเนื้อกล้ามขยาย หลวงพ่อถามแม่ของอชิตว่า ถ้าให้เลือกระหว่างเด็กที่มากกว่า ๆ ไม่ไปไหน กับเด็กที่รังได้ แม่จะเลือกแบบไหน แม่เขาก็เลือกเด็กที่รังได้ กล้ามเนื้อกำลังขยาย ก็เป็นแบบนี้แหละ อชิตเป็นบิตนิวัตน้อย ก็ต้องมีวิธีสอน
วันนี้เรียนภาษาจีนวันแรก ภาษาจีนกลาง เลข ๑ คือ อี เลข ๒ คือ เอี๋ร์ หลวงพ่อก็ถามคำถาม อี-อี เท่ากับเท่าไหร่? อชิตตอบว่า “เออร์ครับ” วันนี้หลวงพ่อทดสอบหมด เขาชอบภาษาจีนกับภาษาอังกฤษ ไม่ธรรมดา เลย อีกหน่อยอชิตจะเก่ง เมื่อวานหลวงพ่อถาม ๑๙ และ + อีก ๑ เท่ากับเท่าไร อชิตตอบว่า “ยก... ๓ ครับ” คงหลายชั้น เด็กเลยบอกว่ายากแต่ก็ ตอบได้ ซึ่งเด็กแต่ละคนอร่อยต่างกัน บางคนชอบร้องเพลงเป็นศิลปิน บางคนชอบเล่าเรื่อง บางคนชอบภาษาจีน เด็กวัยกำลังน่าถามต้องอนุบาล ๓ ร้อยต่อ ป.๑ นี้แหละ ช่วงนี้เป็นร้อยต่อ จะได้เป็นครูหรือเป็นอะไรต่าง ๆ ก็ ต้องช่วงนี้ อนุบาล ๓ ต่อ ป.๑ กำลังอยู่ในวัยอินโนเซ้นท์แล้ว เริ่มจะรู้เรื่องเด็ก ๆ แต่งตัวสะอาดรองลงพ่อกันเต็มเลย