ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - บาลีไวยากรณ์ วากยสัมพันธ์ - หน้าที่ 227
วากยารัมภนิบาต
๒. ถ้าความท่อนต้นที่แสดงไว้ยังไม่หมดความ เป็นเหตุให้ถาม
ให้วิสัชนากันร่ำไป จึงอธิบายต่อเสียในท่อนหลังทีเดียว ไม่ต้องให้
ถาม, แต่ไม่ได้อธิบายซ้ำความเดิมเหมือนพากย์วิตถาร โชดก, เป็น
แต่ปรารภความที่กล่าวแล้วในท่อนต้น กล่าวความเนื่องกันไปไม่ขาด
สาย, นิบาตซึ่งเป็นเครื่องหมายความข้อนี้ในท่อนหลัง เรียกชื่อว่า
วากฺยารมภโชตโก หรือเรียกให้สั้นว่า วากยรมโภ, ในอรรถนี้ใช้
นิบาต ๓ ศัพท์ คือ หิ, จ, ปน, ตรงความไทยว่า ก็, แล, ก็แล,
มีอุทาหรณ์ดังนี้: จตุมุมคฺคผลนิพพานวเสน นววิโธ, ปริยตฺติยา สห
ทสวิโธ วา ธมฺโม, ธารณญจ ปเนตสฺส อุปายาทินิพฺพตฺตนกกิเลส-
วิทธ์สน. (สงฺคหฎีกา) ความในท่อนต้น เป็นเหตุให้ถามว่าอย่างไร
มรรค ๔ ผล ๔ กับพระนิพพาน เป็น ๕ ประการ ดังนี้บ้าง หรือรวม
เข้ากับพระปริยัติด้วยเป็น ๑๐ ประการ จึงชื่อว่า พระธรรม พระ
ธรรมนั้นมีคุณอย่างไร ดังนี้บ้าง ก็ได้, ในท่อนหลังจึงแสดงเสีย
ทีเดียวว่า ความทรงพระธรรมนั้นไว้ กำจัดกิเลสซึ่งเป็นเหตุเกิดใน
อบายเป็นต้นได้, จ ในท่อนหลังนั้นเรียก วากยารมภโชตโก เพราะ
ส่องความที่ท้าวพากย์ก่อน. อุทาหรณ์ผูกไว้เป็นตัวอย่างดังนี้: วิริย
นาม สมมา ปยุตต์ สุขมาวหติ, ตกการา หิ เตน อุปปาทิต สุข
อธิคนฺตฺวา อตฺตโน วจนการก ตตฺถ นิโยเชนติ