ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - บาลีไวยากรณ์ วากยสัมพันธ์ - หน้าที่ 229
ผลโชตกนิบาต
๔. ถ้าความท่อนต้นกล่าวเหตุ ซึ่งน่าชวนให้ถามถึงผลว่า ข้อนั้น
จะให้ผลอย่างไร จึงกล่าวผลเสียในความท่อนหลังทีเดียว ไม่
ต้องให้ถาม; นิบาตซึ่งเป็นเครื่องหมายความข้อนี้ในท่อนหลัง เรียก
ชื่อว่า ผลโชตโก หรือเรียกให้สั้นว่า ผล, แม้ในอรรถนี้ก็ใช้
นิบาต ๓ ศัพท์นั้น, ตรงความไทยว่า ด้วยว่า มีอุทาหรณ์ดังนี้:
ทานํ ทาตพฺพเมว, ทายหิ โภคสมุปท์ อาวหติ. (คันถาภรณ.)
ความท่อนต้น น่าชวนให้ถามว่า ให้ทานมีผลอะไร, จึงอธิบายผล
แห่งทานนั้น ในท่อนหลังว่านำโภคสมบัติมา, เหตุนั้นความท่อนต้น
จึงชื่อว่าเป็นเหตุ, ความท่อนหลังชื่อว่าเป็นผลฉะนี้: หิ ในท่อนหลัง
นั้นเรียก ผลโชตโก เพราะส่องความที่เป็นผล อุทาหรณ์ผูกไว้เป็น
ตัวอย่างดังนี้: ปญฺญา นาม อิจฉิตพฺพา, ตาย จ สุขุมมปิ อตฺถ
วิจาเรติ.
วิเสส โชตกนิบาต
๕. ถ้าความท่อนต้นกล่าว ลักษณะแห่งคน หรือของอะไร ๆ โดย
อาการเสมอกัน ไม่ได้วินิจฉัยว่า วิเศษกว่ากันอย่างไร, ความท่อนหลัง
วินิจฉัยวิเศษออกไป นิบาตซึ่งเป็นเครื่องหมายความข้อนี้ในท่อนหลัง
เรียกชื่อว่า วิเสสโชตโก หรือเรียกให้สั้นว่า วิเสโส. แม้ในอรรถนี้
ก็ใช้นิบาต ๓ ศัพท์นั้น, ตรงความไทยว่า แต่, ก็แต่ว่า ถึง
က