ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๑ - บาลีไวยากรณ์ วากยสัมพันธ์ - หน้าที่ 234
พยติเรกโชตกนิบาต
๑๐. ถ้าความท่อนต้นกล่าวอนุโลม คือไม่มีปฏิเสธห้าม, ความ
ท่อนหลังกล่าวมีปฏิเสธห้าม แต่คล้อยตามกัน, นิบาตในความท่อนหลัง
เรียกว่า พอติเรกโชตโก, ในอรรถนี้ ใช้นิบาติ ๓ ศัพท์นั้นเหมือน
อันวยโชตก, ตรงความไทยว่า อัน, มีอุทาหรณ์ดังนี้: รตนตฺตย์
นาม วนฺทนีย์ ติ วนฺทโต สกลภยาที่อุปททวนวารณสมตุกตฺตา
น หิ ติ ฐเปตวา อญฺญา สตฺตานํ ปฏิสรณ์ อตฺถิ (ฎีกาคันณัฏฐิ)
หิ ในความท่อนหลัง เรียก พุยดิเรกโชตโก, อุทาหรณ์ผูกไว้เป็น
แบบเทียบดังนี้: ปญฺญา ว เสฎฐา สีลาทโย จ ตสฺส กล น
อุเปนติ.
สัมภาวนโชตกนิบาต
๑๑. ความท่อนต้นกล่าวติ, ความท่อนหลังกล่าวชม, นิบาต
ในความท่อนหลัง เรียกชื่อว่า สมภาวนโชตโก, ในอรรถนี้ใช้นิบาต
คือ ปน ศัพท์เดียว, ตรงความไทยว่า ถึงอย่างนั้น แต่ ก็แต่ว่า
มีอุทาหรณ์ดังนี้: อสนธิทมปิ (ปฏิสนธิ ทาติ อสกโกนฺตมฺปิ)
อุทธจุจิ ชนกสตฺติยา (ปวตฺติย์ วิปาก ชเนติ สมตฺถตาย) ปน
วิปากธมฺมเมต์. (คันถากรณ.) ความท่อนต้นกล่าวติ อุทธัจจะ ว่า
ไม่อาจให้ปฏิสนธิ, ความท่อนหลังชมว่า ให้วิบากได้, ปน ใน
ความท่อนหลัง เรียก สมภาวนโชตโก เพราะส่องความสรรเสริญ