ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - บาลีไวยากรณ์ วากยสัมพันธ์ - หน้าที่ 231
ให้ชัด, อุทาหรณ์เป็นตัวอย่างดังนี้: ยถา ปน ตานิ เขฬาที่นิ อสุจิน
วิปฺปสนฺเนน อุทเกน โธวียมานาน วินสฺสนฺติ----เอวเมว อเวเรน----
เวรานิ รูปสมสมนฺติ (ธมฺมปทฏฐกถา ภาคที่ ๑ เรื่องที่ ๔)
ทัฬหกรณโชตกนิบาต
๓. ความท่อนต้น ควรอ้างเอาคำอื่นมาเป็นเครื่องสาธกหรือ
รับรองให้มั่นขึ้น เรียกว่า ทฬริย์, ทัฬหิยะนั้น จัดเป็น ๒ อย่าง
คือ ควรอ้างคำในคัมภีร์ที่ท่านเก่าๆ กล่าวไว้ เช่นพุทธภาษิต เรียก
อาคมทฬริย์ อย่างหนึ่ง ควรอ้างคำที่กล่าวเอง แต่สมแก่คำต้น เรียก
ยุตติทฬริย์ อย่างหนึ่ง, ความท่อนหลังซึ่งนำมาเป็นเครื่องสาธกหรือ
รับรองให้มั่นขึ้น เรียก ทฬหกรณ์ ทัฬหกรณะนั้น ก็จัดเป็น ๒ อย่าง
ตามประเภทแห่งทัฬหิยะฉะนั้น, นิบาตในท่อนหลัง เรียก ทัฬหิกรณ
โชตโก, ในอรรถนี้ใช้นิบาตแต่ ๒ ศัพท์ คือ หิ กับ จ, ตรงความ
ไทยว่า จริงอยู่, แท้จริง; อุทาหรณ์ในอาคมทัฬหกรณะพึงรู้ในคำว่า
วุตตกเหต ภควตา; วุตตมป์ เจต ภควตา เป็นต้น. อุทาหรณ์
ในยุตติทัฬหิกรณะว่า พุทธาทิ (รตนตฺตย์) วนฺทเนยย์ ว. น หิ
* วินา อญฺญ์ อตฺถิ (คันถากรณนัย.) หิ, จ, ในอุทาหรณ์นั้น
เรียก ทัฬหิกรณโชตโก เพราะส่องความเครื่องทำคำก่อนให้มั่น
อุทาหรณ์เป็นแบบเทียบอาคมทัฬหกรณะดังนี้: ปุตโต มาตาปิตเรส
สมฺมา ปฏิปชฺชนฺโต เตส สนฺติกา สงฺคห์ ลภติ, วุตตกเจต