ข้อความต้นฉบับในหน้า
แต่จากการศึกษาของผู้วิจัยพบว่า พระพุทธเจ้าเป็นผู้รับบัญญัติศิลาขาขนในพระปฎิมากร ที่จำนวนศิลาขาขนของนิกรมต่าง ๆ มีไม่เท่ากัน มาจากศิลาขบท หมวดเสียวัตร เนื่องจากเป็นศิลาขบทเล็กน้อย ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้ลงแก้ไขได้ ทำให้ศิลาขบทหมวดนี้ของนิกรมต่าง ๆ แม้จะมีหัวของหมวดอยู่อย่างคล้ายกัน แต่มีจำนวนศิลาขาขนต่างกันมาก กล่าววันจากศิลาขบทหมวดเสียวัตรและหมวดปฏิจจ์จำนวน 2 ศิลาขาขนแล้ว ศิลาขาขนที่เหลือของทุกนิกรมตรงกันหมด
ปฎิมากรจากพระสูตร เพราะเมื่ออนุญาตนี้จะส่งต่อวิธีการดำเนินในสมณเพศของพระภิษุรูป ภิกษุใดทำผิดก็จะปรับอาบัต ดังนั้น เว้นจากพระพุทธเจ้าแล้วจึงเป็นเรื่องยากที่ใครจะปฏิบัติศิลาขาขนขึ้นมาแล้วให้ตกสะสมทั้งแผ่นดินยอมรับปฏิบัติตาม นอกจากพระพุทธองค์ยังทรงบัญญัติให้สงฆ์ต้องประชุมกันในอุโบสถวาทนบุตรานุโบสถ์ทุกเดือน ทำให้สถาขาขนในปฎิมากรได้รับการรำบำอย่างดี จึงทำให้เนื้อหาหลักของปฎิมากรในพระนิรบูญของทุกนิกรมตรงกัน
นักวิชาการที่อ้างจำนวนศิลาขนที่ต่างกันของพระปฎิมากรของนิกรมต่างๆ มาเป็นเหตุว่าศิลาขนค่อย ๆ หลายอาจเกิดขึ้นหลังพุทธกาล เป็นเพราะไม่ได้แยกแยะจำนวนหัวข้อศิลาขนของหมวดเสียวัตรออกจากหมวดอื่น ๆ และของขามความสัมพันธ์ระหว่างเสียวัตรกับศิลาขนเล็กน้อย
คำสำคัญ: ปฎิมากร, ศิลาขนเล็กน้อย, พระนิรบูญ