ข้อความต้นฉบับในหน้า
การจัดหมวดหมู่คำสอน และสร้างระบบการถอดคำสอน เช่น พระวินัยซึ่งมีพระอุบาลีเป็นหัวหน้าหน้า เมื่อพระพุทธเจ้าทรงบัญญัติศัพท์ใหม่ขึ้น ก็รวบรวมเรียบเรียงเหตุการณ์อันเป็นต้นบัญญัติ ตัวพระบัญญัติอันเป็นเนื้อหาสลักขอบ อธิบายศัพท์และข้อควรที่สำคัญในตัวสัญลักษณ์ บอกข้อเตือนของกิริยาทที่ไม่ต้องอาบัติ รวบรวมเป็นตัวอย่างการวินิจฉัยว่าถูกหรือผิดสลักขอบข้ออัน ๆ ของพระพุทธเจ้ามีรวบรวมเรียบเรียงเสร็จถึงกองบรรทัดไว้เป็นอย่างดี ส่วนพระธรรมราชซึ่งมีพระอานนท์เป็นหัวหน้า เมื่พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมเรื่องใด ๆ แล้ว ก็จะเรียบเรียงให้กระชับรัดกุมอยู่ในรูปแบบที่เหมาะแก่การท่องจำ พระสูตรใดมีเนื้อหาหลักธรรมคล้ายกับพระสูตรอื่นที่พระพุทธเจ้าเคยทรงแสดงไว้แล้ว ก็จะใช้เนื้อหา
__________________
เชิงอรรถ 3 (ต่อ)
sākkachissantīti, ye te bhikkhū jhāyino tesam ekajjhaṁ senāsanaṁ paññaṁpeti te ānāmāṇaṁ na vyābaddhissantī, ye te bhikkhū tiracchānakhatikaṁ Kāyadaṁlābhabhula vihāranti tesam pi ekajjhaṁ senāsanaṁ paññaṁpeti imāya p’ ime āyasamantā ratiyā acchissantī. (Vin III: 159^9-20)
ก็แล้ว ท่านพุทธมาลัยนตรา ได้รับแต่งตั้งแล้ว ย่อมจัดแจงเสนอรวมไว้เป็นพวก ๆ สำหรับหมู่ภิกษุผู้อุปสมบัติเสมอกัน คือ ภิกขุเหล่าใดเป็นผู้ทรงพระสูตร ท่านก็จัดแจงเสนอรวมภิกขุเหล่านั้นไว้แห่งหนึ่ง ด้วยประสงค์ว่า ภิกษุเหล่านั้นจักชอบพระสูตรกัน ภิกษุเหล่าใดเป็นผู้ทรงวินัย ท่านก็จัดแจงเสนอรวมภิกษุเหล่านั้นไว้แห่งหนึ่ง ด้วยประสงค์ว่า ภิกษุเหล่านั้นจักสนุนธรรมกัน ภิกษุเหล่านั้นเป็นพระธรรมกถา ท่านก็จัดแจงเสนอรวมภิกขุเหล่านี้ไว้แห่งหนึ่ง ด้วยประสงค์ว่า ภิกษุเหล่านี้จักสนุกธรรมกัน
ภิกษุเหล่าใดเป็นผู้ได้อุโบสถ ท่านก็จัดแจงเสนอรวมภิกษุเหล่านั้นไว้แห่งหนึ่ง ด้วยประสงค์ว่า ภิกษุเหล่านี้จักไม่บกพร่อง ภิกษุเหล่านั้นจักไม่บกพร่องกัน ภิกษุเหล่าใดตอบถามกล่าวอาจาริยา ย่อมมีบำรุงรักษาอยู่มาก ท่านก็จัดแจงเสนอรวมภิกษุเหล่านั้นไว้แห่งหนึ่ง ด้วยประสงค์ว่า ภิกษุเหล่านี้จักไม่ปล่อยบกพร่องกัน
ภิกษุเหล่านี้ได้ตอบถามกล่าวอาจาริยา ย่อมมีบำรุงรักษาอยู่มาก ท่านก็จัดแจงเสนอรวมภิกษุเหล่านั้นไว้ด้วยความพอใจ