ข้อความต้นฉบับในหน้า
ข้อความจากภาพ:
หากคณะสงฆ์กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งบัญญัติสิทธาขึ้นโดยผลการสงฆ์กลุ่มอื่นก็จะรู้ทันทีและเป็นไปไม่ได้ที่จะสงฆ์กลุ่มอื่นที่เหลือทั้งหมดจะยอมรับอธิปฏิบัติ
6.2.4 พระนิYAxisของทุกนิGกายลินวา่ว่า พระพุทธเจ้าเป็นผู้รงบัญญัติสิทธาขในพระปฏิรูปฌ์ 41
ดังนั้น เมื่อพิจารณาผลการวิเคราะห์ทั้งหมด ทั้งจากข้อมูลและเอกสารที่มีในปัจจุบัน ตลอดจนลักษณะเฉพาะของปฏิรูปฌ์และสภาวทางสังคมตามเหตุผลทั้ง 4 ประการข้างต้นแล้ว จึงสรุปได้อย่างชัดเจนว่า สิทธาขในพระปฏิรูปฌ์บัญญัติขึ้นในครั้งพุทธกาลโดยพระสัมพุทธเจ้า และเรียบเรียงอยู่ในรูปแบบที่ใกล้เคียงปัจจุบันอย่างยิ่ง มัตตั้งแต่คราวสงคยมารครั้งที่ 1 แล้ว
เชิงอรรถ 40 (ต่อ)
ของความทรงจำและความคลาดเคลื่อนในการสืบทอด ซึ่งเมื่อพิจารณาความจริงว่า พระธรรมวินัยสนับสนอด้วยการท่องจำมาก็กว่า 400 กว่าปีจึงจะมีการจารึกเป็นลายลักษณ์อักษรและยังสามารถรักษาเนื้อหาหลักสำคัญได้ตรงกัน ก็ถือเป็นเรื่องน่าศรัธในความเพียรและความทรงจำของพระเถระผู้รักษาสิทธอทอพระธรรมวินัยแล้ว
พระวินัยรวม คู่ที่ Vin II: 284-293; พระวินัยปกรณ์นิกายมหาสตก (五分律) คู่ที่ 五合集 T22: 190ff.; พระวินัยปกรณ์นิกายธรรมปุณโฎ (四分律) คู่ที่ 集出比丘尼, T22: 966ff.; พระวินัยปกรณ์นิกายสังฆเภทิกาวา ([十誓律] คู่ที่ 五五比丘 начала三品, T23: 445ff.; พระวินัยของนิกายเทพลีลา ([摩訶僧祇律] 第 33 例) คู่ที่ 集比庵, T22: 491c-493a (อ้างอิงจาก Sato (1963: 53-54, 68 เชิงอรรถ 5)
ธรรมาจารย์ วารสารวิชาการพระพุทธศาสนา 53 สิลภบทในพระปฏิรูปฌฎกที่ยังไม่ได้