ปัญหาเกี่ยวกับหมวดเสยิวัตรในพระวินัย สิกขาบทในพระปาฏิโมกข์เกิดขึ้นเมื่อใด หน้า 22
หน้าที่ 22 / 42

สรุปเนื้อหา

เนื้อหาในหมวดเสยิวัตรของพระวินัยมีลักษณะคล้ายคลึงกัน แต่มีความแตกต่างที่ชัดเจน ทำให้เกิดคำถามว่าทำไมจึงมีเพียงเนื้อหาประเภทนี้ในปฏิสนธิ ข้อควรปฏิบัติของภิกษุในกรณีที่ต่างๆ ถูกกล่าวถึงในพระวินัย ฉบับที่ 18 แต่ทำไมเนื้อหาบางอย่างจึงถูกบรรจุเพียงบางส่วน ในขณะที่บริบทอื่นๆ มีข้อปฏิบัติอีกมากมายในการดำเนินชีวิตของภิกษุ คุณ Hirakawa แนะนำว่าเนื้อหาดังกล่าวอาจถูกประมวลผลตั้งแต่ก่อนที่จะมีการแบ่งนิยาย การศึกษานี้มีบทบาทสำคัญในการทำความเข้าใจการปฏิบัติและระดับของการอาบัติต่างๆ ในชีวิตประจำวันของภิกษุ เมื่อไรที่การผิดพลาดส่งผลให้ต้องปฏิบัติตามกฎ โดยเฉพาะในโรงฉันซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเฉพาะเจาะจงในการปฏิบัติที่มีผลต่อการดำเนินชีวิตของภิกษุ.

หัวข้อประเด็น

- ข้อควรปฏิบัติของภิกษุ
- ลักษณะของหมวดเสยิวัตร
- ความสำคัญของเนื้อหาในพระวินัย
- ปัญหาในการบรรจุเนื้อหาในปฏิสนธิ
- การตีความข้อความทางพระธรรม

ข้อความต้นฉบับในหน้า

เมือถึงรงนี้ จึงเกิดปัญหาขึ้นว่า "ทั้ง ๆ ที่ลักษณะในปฏิสนธิ์ 7 หมวดต้นของนิยายต่าง ๆ มีเนื้อหาดรงกันมาก แต่เหตุใดจึงมีแต่หมวดเสวยวัติท่านี้ที่มีเนื้อหาแตกต่างกันมากอย่างชัดเจนเช่นนี้ นอกจากนั้นแล้ว ในฉบับที่ 18 ของพระวินัยรวา คือ วัฒนัพันธุะว่า ด้วยเรื่อวัจจะรูปที่ปฏิบัติของภิกข์ ก็ได้มีการกล่าวถึงข้อความปฏิบัติของภิกข์ในกรณีต่าง ๆ เช่น ข้อควรปฏิบัติของภิกข์ผู้สมภิกษุในอวสาน ภิกขุเดินทาง ภิกขุผู้เที่ยวบินทอด ข้อควรปฏิบัติในโรงฉัน ในเสนาสนะ ในวัดอุตฉันณ์ (ห้องส้วม) เป็นต้น ซึ่งถ้าภิกษุไม่ปฏิบัติตามแล้วจะต้องอบีดทุกกฎเหมือนกับหมวดเสยิวัตร โดยเฉพาะในเรื่องข้อควรปฏิบัติในโรงฉันที่ปรากฏอยู่ในวัตถุดังกล่าวนั้น มีเนื้อหาแทบจะเหมือนกับเนื้อหาหลักในข้อวัตรในกรณีอื่น ๆ การเหตุใดจึงขาขนในหมวดเสยิวัตรึงเลือกเอาเฉพาะเนื้อหาเฉพาะนี้บรรจุไว้ในปฏิสนธิ เพียงเท่านั้นย่อมรบีวในปฏิสนธิ์ แต่ไม่บรรจุเนื้อหาข้อควรปฏิบัติอื่น ๆ ซึ่งมีอีกมากมายเข้าไปด้วย Hirakawa (2000: 58-59) ได้ให้ความเห็นว่า เนื่องจากเนื้อหาในหมวดเสยิวัตรของพระวินัยนายน ต่าง ๆ มีหัวข้อคล้ายคลึงกัน จึงเป็นไปได้ว่า เนื้อหาของเสยิวัตรได้มาจนแล้วในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ตั้งแต่ก่อนการแบ่งนิยาย และเมื่อพิจารณาดูจากลักษณะของเสยิวัตรในสมุฏฐานแล้ว ก็พบว่า ควรจะเป็นเพียงข้อควรปฏิบัติของภิกข์เท่านั้น ไม่ควรจะถูกบรรจุเป็นลักษณะ จึงจะเห็นได้จากพระบัณฑิตแต่ละข้อในหมวดเสยิวัตรว่าจะท้ายด้วยคำว่า "ลิขฺฏา กรณียา" (แปลว่า ภิกษุผุ้งทำความศึกษา" เช่น ภิกษุผุ้งทำความศึกษา ว่า เราจไม่มเน่เท่าสอในละแวกบ้าน) ไม่ได้การบูชาโทษเหมือนในลักษณะท่ีกล่าวไว้ในหมวดอื่น ๆ เช่น "ภิกษุกล่าวเท็จทั้งที่รู้จก อาบัติปิติสัตย์" และในความเป็นจริงแล้ว การกระทำผิดเสยิวัตรจะเรีอยกว่ำ ต้องอาบัติทุกกฎ ไม่จำเป็นต้องปลอบอาบัติกับภิกข์อืน ๆ เพียงแต่ตั้งเจตนาไว้ในใจวายหน่า จะไม่นำกชึดึงกอว่าพนักอนแล้ว ดั่งนั้นการนำเอาข้อควรปฏิบัติแม้เมื่อกระทำผิด ก็สามารถพ้นได้โดยไม่ต้องเกี่ยวข้องกับภิกข์อืน มาบรรจุลงในปฏิสนธิซึ่งเป็นวินัย สําหรับร้อยร้องคณะสงให้เป็นอภาาก จึงดูไม่ค่อยสมเหตุสมผล
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หน้าหนังสือทั้งหมด

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More