ข้อความต้นฉบับในหน้า
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) 1
หลักการเจริญภาวนา
สมถวิปัสสนากรรมฐาน
พระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ ทั้งอดีต ปัจจุบัน อนาคต ล้วนทรงสอนให้สัตว์โลก
- ละชั่ว ด้วยกาย วาจา ใจ
- ทําความดี ด้วยกาย วาจา ใจ
ทําใจให้ผ่องใส
การที่จะทำใจของตนให้ดีตามนี้ได้มีหลักคือ สมถวิปัสสนา อันเป็นวิชชาสำคัญในพระพุทธ
ศาสนา ตามพระบาลีว่า
เทว เม ภิกฺขเว วิชชาภาคิยา ฯ “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย วิชชามี ๒ อย่าง คือ
สมถะ คือ ความสงบระงับ วิปัสสนา คือ ความเห็นแจ้ง
สมถะ เป็นขึ้นแล้ว ต้องการให้จิตเป็นขึ้น
จิตเป็นขึ้น ต้องการให้ความกำหนัดยินดีหมดไป
วิปัสสนา เป็นขึ้นแล้วต้องการทำให้ปัญญาเป็นขึ้น
ปัญญาเป็นขึ้น ต้องการให้ความไม่รู้จริงอันใดที่
อยู่กับจิตใจหมดไป”
สมถะ เป็นวิชชาต้น แปลว่า สงบระงับใจ
วิปัสสนา เป็นขั้นสูง แปลว่า เห็นแจ้ง
“สมถะ - วิปัสสนา ๒ อย่างนี้ เป็นธรรมอันสุขุม ลุ่มลึกในทางพระพุทธศาสนา
ผู้พูดได้ศึกษามาตั้งแต่บวช พอบวชออกจากโบสถ์แล้วได้วันหนึ่ง รุ่งขึ้นอีกวัน
หนึ่งก็เรียนทีเดียว ไม่ได้หยุดเลย บัดนี้ทั้งเรียนด้วย ทั้งสอนด้วย ทั้ง ๒ อย่างนี้”
สมถะและวิปัสสนามีภูมิแค่ไหน ?
สมถะมี ๔๐ ภูมิ คือกสิณ ๑๐ อสุภะ ๑๐ อนุสติ ๑๐ พรหมวิหาร ๔ อาหาเรปฏิกูลสัญญา ๑ จตุ
ธาตุววัตถาน ๑ อรูปฌาน ๔
วิปัสสนามี ๖ ภูมิ คือ ขันธ์ ๕ อายตนะ ๑๒ ธาตุ ๑๘ อินทรีย์ ๒๒ อริยสัจ ๔ ปฏิจจสมุปบาท
ธรรม (เป็นธรรมที่อาศัยซึ่งกันและกันเกิดขึ้น)
หัวใจ
เริ่มต้นการเรียนภูมิของสมถะ “ต้องทำใจหยุดก่อน” ตรงตามความหมายว่า สงบนิ่ง
ใจ ประกอบด้วยความเห็น ความจำ ความคิด ความรู้ รวมกันเป็นจุดเดียว อยู่ที่เบาะน้ำเลี้ยง