ข้อความต้นฉบับในหน้า
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) 41
๓. ต้องขยันหมั่นเพียร
๔. ต้องมีศรัทธา เชื่อมั่นว่าปล่อยได้จริง
สำรวมดีทั้ง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ได้ชื่อว่าหลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวง ได้จริงๆ ย่อมยัง
ประโยชน์ให้สําเร็จ
ทางปฏิบัติ
จะปฏิบัติได้จริง ต้องเห็นขันธ์ทั้ง ๕ ว่า รูปสัณฐานโตอย่างไร แล้วก็ดูความจริงของมันว่า ยึด
ไว้จะเป็นทุกข์อย่างไร คือ :
ต้องทำใจหยุดนิ่งที่ศูนย์กลางกายมนุษย์ตรงดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายมนุษย์ หยุดนิ่ง เข้ากลาง
ของกลาง เป็นลำดับไป เห็นดวงศีล ดวงสมาธิ ดวงปัญญา ดวงวิมุตติ ดวงวิมุตติญาณทัสสนะ เข้า
ถึงกาย ในกายด้วยการหลุดจากธรรมที่ปนด้วยกิเลสในกายต่างๆ จนถึงกายธรรมพระอรหัต จึงพ้น
เด็ดขาด เป็นวิราคธาตุวิราคธรรม เป็นพระอรหันต์ ถึงที่สุด
มาอีก
ความจริงพอถึงกายธรรมหยาบละเอียดก็ไปนิพพานได้แล้ว แต่ยังเป็นตทังควิมุตติ ต้องกลับ
หากหลุดแค่พระโสดา เป็นอริยบุคคล แต่ยังไม่พ้นไตรวัฏฏ์ อาศัยกามภพ รูปภพอยู่ แต่ว่า
อาศัยอยู่แต่เปลือกนอก เพราะข้างในล่อนจากเปลือกนอกเสียแล้ว
“ที่แสดงในทางขันธ์ ๕ เป็นของหนัก แล้วคิดสละขันธ์ ๕ นั่นได้ ด้วยความ
ระมัดระวังนี้เป็นทางปริยัติ เป็นลำดับไปจนเข้าถึงถอดกายเป็นชั้นๆ ออกไป แล้ว
จนกระทั่งถึงพระอรหัต ถึงวิราคธาตุวิราคธรรม ในแนวนั้นเป็นทางปฏิบัติ ปฏิเวธ
ก็เป็นชั้นๆ เคยแสดงแล้ว”
การเล่าเรียนในทางพุทธศาสนา ต้องเรียนทั้งปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ เช่นนี้