พระพุทธศาสนาและนิกายต่าง ๆ พระพุทธศาสนามหายาน: เหตุใดคำสอนของพระพุทธเจ้าจึงมีความหลากหลาย (2) หน้า 6
หน้าที่ 6 / 37

สรุปเนื้อหา

บทความนี้พูดถึงการแบ่งนิกายของพระพุทธศาสนาในยุคที่มีการแบ่งแยกออกเป็น 20 กลุ่ม โดยแต่ละนิกายยังคงยอมรับการมีอยู่ร่วมกันและสืบสายมาจากคำสอนดั้งเดิมของพระศากยมุนี แม้จะมีความแตกต่างกันในด้านคำสอนและแนวทางปฏิบัติ แต่โดยรวมแล้วปลายทางยังคงมุ่งหมายไปสู่การเข้าถึงความจริงเดียวกัน.

หัวข้อประเด็น

- พระพุทธศาสนา
- นิกายและความหลากหลาย
- การยอมรับซึ่งกันและกัน
- ประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ธรรมาธาร วารสารวิชาการวาทศาสตร์พระพุทธศาสนา ปีที่ 6 ฉบับที่ 2 (ฉบับรวบรวมที่ 11) ปี 2563 บทที่ 1 จาก “พระพุทธศาสนาของพระศากยมุนี” สู่ “พระพุทธศาสนามหายาน” (ตอนจบ) “พระพุทธศาสนายุคแบ่งนิกาย” ให้กำเนิดความหลากหลายในพระพุทธศาสนา¹ อาจารย์: “พระพุทธศาสนายุคแบ่งนิกาย” ในที่นี้ หมายเอา พระพุทธศาสนาที่แบ่งออกเป็นกลุ่มต่าง ๆ ถึง 20 กลุ่ม (นิกาย) แต่ באופןไรกตาม ใวว่านิกายต่าง ๆ เหล่านี้จะแบ่งแยกขาดออกจากกัน โดยสิ้นเชิง เพราะต่างยอมรับการมีอยู่ซึ่งกันและกัน และต่างใช้คำว่า “นิกายน 00” “นิกายน XX” ตั้งแต่ในสมัยของพระเจ้าอโศกนเอง ประเด็น ที่สำคัญ คือ นิกายแต่ละนิกายยืนยันว่านิกายของตนสืบสายมา แต่ดั่งเดิม แต่ในขณะเดียวกันก็ยอมรับการมีอยู่ของนิกายอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ นิกายนตนเช่นกัน ถ้าจะยกตัวอย่างในปัจจุบันที่พอจะเข้าใจได้ง่าย ๆ ก็อาจ เหมือนกับการที่พรรคการเมืองใหญ่พรรคหนึ่ง ประกอบด้วยกลุ่มย่อย ๆ มารวมกันเป็นพรรคใหญ่พรรคเดียวกันนั่นเอง บางท่านอาจจะมีคำถามว่า ทำไมพระพุทธศาสนาที่แต่เดิมมี เพียงคำสอนของพระศากยมุนีเพียงหนึ่งเดียว ถึงแบ่งแยกออกเป็น นิกายต่าง ๆ ได้ในประเด็นคำถามนี้ อาจกล่าวได้ว่า เป็นเรื่องกรรมดา ¹ หัวข้อนี้เริ่มจากหน้า 22 เป็นต้นไป ² ผู้แปล: ภาษาญี่ปุ่นใช้คำว่า 部派仏教 (buha bukkyō) หมายถึง พระพุทธ- ศาสนาในยุคที่ผ่านมาแยกแยะเป็นนิกายต่าง ๆ ประมาณ 18-20 นิกาย บางแห่ง ได้ได้ว่า 小乗仏教 (shōjō bukkyō) หรือ “พระพุทธศาสนาหยาบ” ซึ่งเป็นคำ ที่เกิดขึ้นภายหลังจาก “พระพุทธศาสนามหายาน” ได้อธิบายขึ้นแล้ว โดยคำว่า 小乗 (shōjō) หมายถึง ยานลำเล็ก ³ ผู้แปล : ภาษาญี่ปุ่นใช้คำว่า 正統 (seitō)
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หน้าหนังสือทั้งหมด

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More