ข้อความต้นฉบับในหน้า
M
๑๑๔ แต่ . . . นั ก ส ร้ า ง บ า ร มี 4
๑
ไปติดสวนมะม่วง แล้วก็ติดแหง็กอยู่แค่นั้น ขยายออกไป
ทางไหนต่อไม่ได้
พอจัดงานบุญใหญ่ๆ ได้ไม่กี่งาน มันก็ติดขัด
ท่านก็รู้อยู่แล้วว่ามันต้องติด แล้วท่านก็มาพูดใหม่ มัน
ต้องได้สิก ๓,๐๐๐ ไร่คงจะดี หลวงพ่อได้ยินเข้าก็ทวง
สัญญาเอากับท่านเหมือนกันว่า
“แล้วเมื่อไรจะได้นั่งหลับตาทำภาวนาล่ะ” ท่าน ก็
ไม่ตอบ กลับเฉไปคุยเรื่องอื่นเสีย
วันหลังท่านก็กลับมาพูดใหม่ แต่พูดอ้อมๆ โดย
ยกเป็นอุปมาทำนองว่า “ถ้ามีเรือใหญ่ลำหนึ่ง เที่ยวพาย
รับคนที่ตกน้ำ ขณะที่ฝูงสัตวโลกลอยคอผลุบๆ โผล่ๆ
อยู่กลางมหาสมุทร ที่จมน้ำตายไปต่อหน้าต่อตาก็มี
เราก็เป็นคนหนึ่งที่เคยลอยคออยู่กับเขาด้วย ใกล้จะ
ตายเต็มที่เหมือนกัน พอดีเรือลำนี้เข้ามารับ แล้วเรา
ขึ้นเรือ เลยรอดตายได้
พอขึ้นเรือได้แล้ว เราก็ช่วยเขาถ่อ ช่วยเขาแจว
ช่วยเขาพายไปได้ระยะหนึ่ง จนรู้สึกเหนื่อย เรามีสิทธิ์ที่
จะถามหรือจะโวยกับคนเหล่านั้นไหมว่า เมื่อไรจึงจะ
หยุดพายกันเสียที เพราะเราเหนื่อยแล้ว ในเมื่อเขา
พายกันมาเป็นร้อยๆ พันๆ ปี จนได้มาช่วยเรา