ข้อความต้นฉบับในหน้า
หมายถึง เสียง หรือสียงหรือเสียงสำหรับใช้ชี้แจง ต่าง ๆ ทั้งคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ ลักษณะ และสภาพธรรมชาติ รวมถึง นามศัพท์นั้นแบ่งออกเป็น ๑ คือ ๑. นามนาม ๒. คำ นาม ๓. สันธานนาม ๑. สันธานนาม คือชื่อสำหรับเรียกทั่วไปไม่เฉพาะเจาะจง เช่นว่า มนุษย์ สำหรับเรี ยนมนุษย์ ได้ทุกคน ตีราคา สำหรับเรียกสัตว์ได้ทุกตัว บริสุทธิ์ สำหรับเรียกผู้ชายได้ทุกคน ๒. อาสาสรรนาม คือชื่อสำหรับเรียกเจาะจงไปแล้วเฉพาะบุคคล เช่น คำว่า ที่มาของ กุลชื่อนามๆ สองชื่อเมืองชื่อวัดดี ๒. คุณนาม หมายถึง ชื่อสำหรับขยายหรือแสดงลักษณะของนามนาม ให้ถูกต้อง ตามลักษณะ นามนาม เช่น ดี. ชั่ว. เลว. ฉลาด. โง่. ดำ. ขาว. ด่าง. มาก. น้อย. อ้วน. ผอม ฯ ลฯ คุณนายามีการขยาย นามนาม ๓ ชั้น คือ a) ปกติคุณนาม ขยายานามโดยปกติ ไม่มีการเปรียบเทียบกับใคร ขยายธรรมดามาดังนี้ เช่น สามเสน ฉลาด. หญิงสาว รูปงาม บริสุทธิ์ อ้วน. โจร จราจร เป็นต้น คำว่า ฉลาด งาม อ้วน และ จราจร เป็น ปกติ คุณนาย b) วิสัยคุณนาม ขยาย นามโดยมีการเปรียบเทียบชั้นๆ เช่น สามเสนด่างตามสภาพความแดง ทำหญิงนั้นสวยงามกว่าคนอื่น ๆ บริสุทธิ์อ่านว่าบริสุทธิ์นั้น โจรคนนี้ดูร้ายกว่ากโจรนี้ เป็นคำว่าฉลาด ดีกว่า สวยกว่า อ้วนกว่า และดูร้ายกว่า เป็นสลุปคุณนาม ฯ เช่น ในภาษาไทยมีคำว่า “ว่า” เป็นคำที่กำหนด. ในภาษา ลีซึม อิตติ (ยิ่ง กว่า) อุปศัพท์ที่นำหน้าบ้าง มี ตม. อธิษฐาน ตติอด ตติอ โป่กว่า ปาโบกว่า ปาโตรว่า ปาโตรโก ปาโบว่า ปาโตรโก ปาโตรงา ปาโตรว่ากว่า ปลุกติโร ปลากว่า ปริตุดโว่า ปลูกวดา ปริตุดโกว่ากำลังมากกว่า أمา ถีปาโปว่าปาโตรโก ปาโตรว่ากว่า อติ appreciated น ขยาย นาม โดยมีการเปรียบเทียบชั้นที่สุด เช่น สามเสนด่างที่สุด หญิงคนเดียวว่าหนึ่งสุดฯ บริสุทธิ์อ้วนที่สุด โจรคนนี้ร้ายที่สุด เป็นคำว่า ฉลาดที่สุด สวยที่สุด อ้วนที่สุด และดูร้ายที่สุด เป็นคำอธิษฐานที่สุด ในภาษาไทยมีคำว่า “ว่า” เป็นคำที่กำหนด ในภาษาอีสานมี อิตติ (เกินเปรียบ) อุปศัพท์หน้าบ้าง มี ตม. อธิษฐาน ดาโว่า ปรับกว่า ปลุกว่า เรียบกว่า เรียกความว่า ฯ