ข้อความต้นฉบับในหน้า
นามศัพท์
แบบเรียนบาลีไว้อ่านสมบูรณ์แบบ ๑๓
เมื่อเปล อุ เป็น อา แล้วให้สะ อา เป็น อ
๒. สตฺ ถ่ายเอกจะหมายถึงพระสถลมหาสัมพุทธเจ้า ฝ่ายพุทธจะหมายถึงครูทั่วหลาย
๓. ปิ ดุ ในอานาปนะไม่ใช้ ปิ ดา ปิ โตร นิยมใช้ ตา และ ตาา ใช้ร้อยได้ทั้งบัตรและอุจ
๔. มุตฺ ถู เมื่อเปล อารัมโถไม่ใช้ มาตา มคิโต อติโต มาตาปูติ โห มาติโสบุญา
๕. มุตฺ ถิ ถิ เมื่อเป็นทิพพสฺมลา เมื่อสง นา ส สุมา ส ม แสงสว่างที่สุดเป็น อ แล้วแสงวิจิตเป็น ย ได้บ้าง เช่น รามาถายา, วชิชฺตาย, เลอรี จิฏฺยา
เมื่อมี โป่งและ กรว ปญฺญา คำทัพท์เป็นต้นยื้นสูง ส่งให้แสงสว่างที่สุดของ ปิติ มุตฺ เป็น ต้นเป็น อ เช่น มาติโต, อิติโต, มาตาปูติโริ, มาติโสรณา
______________________________
๓. มโนคตะ
หมู่ที่จัดเป็นโมคะจะมีลักษณะเฉพาะของตนเอง ๓ ลักษณะ คือ
๑. แสง นา เป็น อา, ส เป็น โอ, สุ เป็น อิ แล้วลง สุดา เป็น สา เป็น โส เป็น สี เช่น มนสา, มนโส, มนสิ
๒. บทพูตวิทูใช้เป็นธรรม แสง อ่า เป็น โอ ได้ เช่น ยโส ลสุขา น มหเสยะย
๓. เมื่อเป็นสมาสและคำติศติ แปล ง อ ส ที่สุดสัปทขององค์ เป็น โอ เช่น มินทวา, มิโนยะ, มิโนสูท, อิโปโท, ดมโมโท ฯลฯ
ลักษณะทั้งหมด ๓ ข้อที่กล่าวมานี้ มิใช่เป็นลักษณะของตัวแน่นอน คือ บางแห่งโมคะจะไม่เปลตามกฎ ก็มี เช่น มน+นา เป็น มนแน, มนสา บาง มนสา บาง มนส เป็น มนสูส บาง มนโล บาง. พิธทราบว่าหนโมคะมิสิลักษณะเหมือน อ การันตีแสดงมาแล้วด้วย มิลักษณะพิศษของ โมคะ เช่นนี้ ส่วนเรื่องลิงค์ของโมคะในคมีก็ริสักหนิด แสดงไว้ว่า เป็นปุงลิงค์และปุงลิงค์สิ ใโมคะในคมีก็ยังงหมด ๑๒ คำศัพท์ คือ
- มน
- ใจ
- เตร
- เตช
- ยอี
- เหล็ก
- ปย
- น้ำม น
- อุร
- อก
- ยส
- ยก
- เจด
- ใจ
- จว
- วจา
- ตป
- ความร้อน
- ยว
- วัย
- ตม
- มิด
- สีร
- หัว