ข้อความต้นฉบับในหน้า
อยู่มาวันหนึ่ง บุญหิรัตตราบุตรพระเจ้าพาราชสีว่า "ข้าแต่พระมหาราชเจ้า เราทั้งหลายไม่รู้ว่ามาแห่งนั้นจะมีศิลปะนั้นหรือไม่ เพราะเขามีได้ทำกรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง ด้วยอนุภาพของศิลปวิทยา ควรจัดทอดลองมาดูนั้นก่อน"
พระราชาบังคับว่า “ดีแล้ว” ทั้ง ๒ คนจึงให้สัญญาแก่เจ้าพนักงานรักษ์ตนเองแล้วเอาแก้วดวงสำคัญลงจากปราสาทเดินวนเวียนภายในพระราชวัง ๑ ครั้ง แล้วพากันไกลนอกปลายกำแพง เข้าไป ศาลุติธรรม นั่งในศาลนั้นแล้วเดินกลับมาพบกันได้ ลงภายในพระราชวัง ทางปลายกำแพง เดินไปยังฝั่งสะโพธิภายในพระราชวัง เวียนสะโพธิภรณ์ ๓ รอบ แล้วลงไปวางสิ่งของไว้ในสะโพธิภรณ์ แล้วจึงไปขึ้นปราสาท.
วันรุ่งขึ้นได้เกิดโกลาหลขึ้นว่า ได้ยินว่า ‘พวกโจรลักข้าวปลา’ จาก พระราชวังนั้นเป็นทรงทราบ รับสั่งให้เรียกพระโพธิสัตว์มาแล้วตรัสว่า “นี้แน่เจ้า แก้วมีค่ามาก ถูกโจรลักไปจากพระราชวังเอาดิไกว่าควรติดตามแก้วนั้นมาให้ได้.” พระโพธิสัตว์ตราบุตรว่า “ข้าแต่พระราชา สิ่งของที่โจรลักไปแล้วนานถึง ๑๒ ปี ข้าพระองค์ยังสามารถติดตามรอยเท้าโจรนำคืนมาได้อย่างไม่ น่าปลก สิ่งของที่ถูกลักไปเมื่อคืนวัน ข้าพระองค์สามารถนำมาได้ในวันนี้แน่น ขอพระองค์อย่าได้ทรงรบกวน ถึงสิ่งของนั่นเลย” พระราชาบังคับว่า “นี้แน่เจ้านั่นนั้น เจ้าของนำมาดิ” พระโพธิสัตว์ตราบุตรว่า “ดีแล้ว พระเจ้าข้า” แล้วขึ้นบนที่ท้อง พระโรงไหม้มารดาร่อนตามจิตนามดี แล้วกราบทูลว่า “รอยเท้าของโจร ๒ คนปรากฏพระเจ้า”