การตีความและการเผยแผ่พระอิทธธรรมในนิยาย Samayabhedoparacanacakra คำแปลพร้อมเชิงอรรถวิเคราะห์ (2) หน้า 15
หน้าที่ 15 / 49

สรุปเนื้อหา

บทความนี้อธิบายการตีความและการเผยแผ่พระอิทธธรรมในนิยายศิษย์เเรวาและสราวฤติวา โดยเน้นการยึดพระสูตรเป็นหลักในนิยายศิษย์เเรวา และพระอิทธรรมในสราวฤติวา นอกจากนี้ยังชี้ให้เห็นว่าการเน้นเผยแผ่ในยุคของพระปฐาได้ทำให้นิยายแตกต่างออกไป โดยเฉพาะในแง่ของการตีความหลักธรรมและการสืบทอดต่อกันมาจากพระมหากัสสปะถึงพระอุปคุต เช่นเดียวกับการรวมพระสูตรและพระวนัยปริกอย่างรอบด้าน

หัวข้อประเด็น

-การตีความพระอิทธธรรม
-การเผยแผ่พระสูตร
-นิยายศิษย์เเรวา
-นิยายสราวฤติวา
-การสืบทอดจากพระมหากัสสปะถึงพระอุปคุต

ข้อความต้นฉบับในหน้า

นิยาย ซึ้งอธิบายว่า เนื่องจากมีหลักธรรม คือ สรวลสังมิอยู่เลย ดังนั้น สรวลสัง ต้องยึดคําพูมอธิบายกล่าว คือ ในสัมรี๓ิ๗ิ๙่ี้๙๙๐้๔๘๙๓๙๖๙๓๙๖๓๔๕๓์๕๎๘๙๓๖๕๕๙๙๙๖๙๑๗นิยายศิษย์เเรวา และนิยายสราวฤติวา ฝ่ายนิยายศิษย์เเรวา ยึดถือพระสูตรเป็นประมาณ กล่าวคือ ยึดพระสูตรเป็นหลัก และทั้งพระอิทธรรมที่ทำการตีความพระสูตร และพระวนัยปริก เนื่องจากไม่เห็นความสำคัญ ฝ่ายนิยายสราวฤติวายึดถือพระอิทธรรมว่าเป็นที่สุด ได้ร่วมเผยแผ่พระสูตรเหมือนกับนิยายศิษย์เเรวาที่รีบสืบทอดต่อจากพระมาหลักส-ประจําถึงพระอุปคุต ต่อมาในยุคของพระปฐาเริ่มเน้นหนักในการเผยแผ่พระอิทธรรมมากว่าชุด จนในที่สุดจึงแตกนิยายออกมาเป็นนิยายที่เน้นการอธิบาย(語言)หลักธรรมโดยการตีความพระสูตรมากกว่านิยายเเรวาที่รีบสืบทอดต่อกันจากพระมหากัสสปะจนถึงพระอุปคุต ต่อมาในยุคของพระปฐาเริ่มเน้นหนักในการเผยแผ่พระอิทธรรมมากว่าชุด อย่างมากในสมัยพระกตายใต้ปุจ จนในที่สุดจึงแตกนิยายออกมาเป็นนิยายที่เน้นการอธิบาย(語言)หลักธรรมโดยการตีความพระสูตรมากกว่านิยายเเรวาที่รีบสืบทอดต่อกันจากพระมหากัสสปะจนถึงพระอุปคุต ต่อมาในยุคของพระปฐาเริ่มเน้นหนักในการเผยแผ่พระอิทธรรมมากว่าชุด อย่างมากในสมัยพระกตายใต้ปุจ จนในที่สุดจึงแตกนิยายออกมาเป็นนิยายที่เน้นการอธิบาย(語言)หลักธรรมโดยการตีความพระสูตรมากกว่านิยายเเรวาที่รีบสืบทอดต่อกันจากพระมหากัสสปะจนถึงพระอุปคุต ต่อมาในยุคของพระปฐาเริ่มเน้นหนักในการเผยแผ่พระอิทธรรมมากว่าชุด อย่างมากในสมัยพระกตายใต้ปุจ จนในที่สุดจึงแตกนิยายออกมาเป็นนิยายที่เน้นการอธิบาย(語言)หลักธรรมโดยการตีความพระสูตรมากกว่านิยายเเรวาที่รีบสืบทอดต่อกันจากพระมหากัสสปะจนถึงพระอุปคุต ต่อมาในยุคของพระปฐาเริ่มเน้นหนักในการเผยแผ่พระอิทธรรมมากว่าชุด อย่างมากในสมัยพระกตายใต้ปุจ จนในที่สุดจึงแตกนิยายออกมาเป็นนิยายที่เน้นการอธิบาย(語言)หลักธรรมโดยการตีความพระสูตรมากกว่านิยายเเรวาที่รีบสืบทอดต่อกันจากพระมหากัสสปะจนถึงพระอุปคุต ต่อมาในยุคของพระปฐาเริ่มเน้นหนักในการเผยแผ่พระอิทธรรมมากว่าชุด อย่างมากในสมัยพระกตายใต้ปุจ จนในที่สุดจึงแตกนิยายออกมาเป็นนิยายที่เน้นการอธิบาย(語言)หลักธรรมโดยการตีความพระสูตรมากกว่านิยายเเรวาที่รีบสืบทอดต่อกันจากพระมหากัสสปะจนถึงพระอุปคุต ต่อมาในยุคของพระปฐาเริ่มเน้นหนักในการเผยแผ่พระอิทธรรมมากว่าชุด อย่างมากในสมัยพระกตายใต้ปุจ จนในที่สุดจึงแตกนิยายออกมาเป็นนิยายที่เน้นการอธิบาย(語言)หลักธรรมโดยการตีความพระสูตรมากกว่านิยายเเรวาที่รีบสืบทอดต่อกันจากพระมหากัสสปะจนถึงพระอุปคุต ต่อมาในยุคของพระปฐาเริ่มเน้นหนักในการเผยแผ่พระอิทธรรมมากว่าชุด อย่างมากในสมัยพระกตายใต้ปุจ จนในที่สุดจึงแตกนิยายออกมาเป็นนิยายที่เน้นการอธิบาย(語言)หลักธรรมโดยการตีความพระสูตรมากกว่านิยายเเรวาที่รีบสืบทอดต่อกันจากพระมหากัสสปะจนถึงพระอุปคุต ต่อมาในยุคของพระปฐาเริ่มเน้นหนักในการเผยแผ่พระอิทธรรมมากว่าชุด อย่างมากในสมัยพระกตายใต้ปุจ จนในที่สุดจึงแตกนิยายออกมาเป็นนิยายที่เน้นการอธิบาย(語言)หลักธรรมโดยการตีความพระสูตรมากกว่านิยายเเรวาที่รีบสืบทอดต่อกันจากพระมหากัสสปะจนถึงพระอุปคุต ต่อมาในยุคของพระปฐาเริ่มเน้นหนักในการเผยแผ่พระอิทธรรมมากว่าชุด อย่างมากในสมัยพระกตายใต้ปุจ จนในที่สุดจึงแตกนิยายออกมาเป็นนิยายที่เน้นการอธิบาย(語言)หลักธรรมโดยการตีความพระสูตรมากกว่านิยายเเรวาที่รีบสืบทอดต่อกันจากพระมหากัสสปะจนถึงพระอุปคุต
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หน้าหนังสือทั้งหมด

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More