จริยธรรมการบวชและบทบาทของพระภิกษุในสังคม : หน้า 14/39

ในกรณีที่บว over 30 ปี ต้องรับไว้ก็ตั้งรุ่นที่มีอายุ 70 ปี ไม่ขัดกับหลักจริยธรรม หรือ ตอบได้ว่าไม่ขัดกับหลักจริยธรรมทางพระพุทธศาสนา แห่งคณะสงฆ์ดังได้ยกตัวอย่างและชี้ให้เห็นแล้วข้างต้น นอกจากนี้ยังมีตัวอย่างที่เห็นได้ชัดในสังคมพระพุทธศาสนเถรวาทที่เมื่ออดีเป็นนาค นาคนั้นกราบขอขมา บิดามารดา แต่เมื่อมาบวชเป็นพระภิกษุ แล้ว บิดามารดากลับเป็นฝ่ายที่กราบไหว้พระลูกชาย ซึ่งสำหรับธรรมเนียมวัฒนธรรมจีนอาจจะรับได้ตามอุปนิสัยเป็นพระภิกษุแล้ว คุณยายอาจารย์ฯ กลับนอนน้อมกรานไว้ กิฏฏลูกศิษย์ผู้วชใหม่ได้อย่างสนิทใจ ภาพเหล่านี้ตั้งท่าทางที่สะท้อนให้เห็นคุณธรรมที่สูงยิ่งของบรรดาชายหญิงหาได้ผู้มากราบกรานเป็นผู้ด้อย หากแต่เป็นผู้ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณธรรมความอ่อนน้อม อันน่ารสรเสริญยิ่ง นอกจากนี้ครูธรรมข้อที่ 1 ยังเป็นเหมือนธรรมเนียมปฏิบัติให้กับกฐินได้เริ่มทักทายภิญโญสูงก่อนในฐานที่ท่านเป็นครูเป็นภิญโญ ตรงนี้ก็เกิดมีคำถามว่าแล้วทำไมต้องให้กฐินเริ่มก่อน หากเรามองภาพรวมของครูธรรม (เช่น กรณีห้ามอยู่ในที่ที่ไม่มีภิญโญอยู่ ต้องบวชจากส่ง 2 ฝายเป็นต้น) เราต้องยอมรับก่อนว่าเพศหญิงเป็นเพศที่อ่อนแอมีสิทธิถูกทำร้ายหรือถูกข่มขืนได้ถ้าขาดไม่ไดอยู่ในสังคมอินเดียก่อนหรือแม้แต่สมัยนี้ก็หาความปลอดภัยสำหรับหญิงยา จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่กฐินต้องอ่อนน้อมทาถามเพื่อให้กฐินรู้ว่า เอกุต และรู้สึกว่ากฐินเองต้องเป็นผู้ดูแลปกป้องภิญโญ แต่ตอนเดียวกันก็มีเส้นนร่าง ๆ เพื่อไม่ให้เกิดความใกล้ชิดในท่านของรู้สา