ข้อความต้นฉบับในหน้า
การที่มีคนให้คำแนะนำมาก ๆ นั้นหมายความว่าประโยชน์ก็น่าจะเกิดขึ้นกับผู้ถูกเตือนมาก เหมือนมีผู้ทีชี้ชุมทรัพย์ให้หลาย ๆ ชม ตรงข้ามหากไม่มีใครเตือนเหมือนพระฉันนะ73 กลับกลายเป็นการเสียประโยชน์และถือเป็นการลงโทษ เพราะค ุณไม่อยรับ กลายเป็นผู้เสมือนถูกด่าทายในการสร้างบารมี ไม่มีโอกาสที่จะพัฒนา ปรับปรุงตนเองอีกต่อไป หมดโอกาสที่จะทำให้ลูกศิษย์ไม่งอเกิดขึ้นให้ไม่งอเกิดขึ้นอีก ุดฌเกิดขึ้นแล้วให้ดับไป ุดฌี่ยงไม่เกิดให้เกิดขึ้นและกุศลที่บังเกิดขึ้นแล้วให้เจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป แม้ว่ากุศลไม่จำเป็นต้องไปวาปากกับกุศล แต่ก็ไม่ได้ห้ามไม่ให้กุศลก็ตามความผิดพลาดของกุศล แต่อย่างใดกุศลส่งสอนกุศลซึ่งจากกล่าวในรายละเอียดในครูธรรมข้อที่ 8
สรุป
จากการวิเคราะห์ครูธรรมทั้ง 4 ข้อในเบื้องต้น จะเห็นได้ว่า ข้ออ้างต่าง ๆ ที่ได้ถูกแสดงมา ผู้เขียนให้หลักฐานทางบารมีรองรับในการอยู่จริงของครูธรรม และยืนยันในเบื้องต้นว่าเป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติ นอกจากนั้นยังแสดงให้เห็นว่า แต่ละข้อของการบัญญัติครูธรรมนี้มีมา มีเหตุผลรองรับ ไม่ว่าจะทรงบัญญัติ เพื่อเป็นทดสอบความตั้งใจของหญิงในการมาวหรือการลดทุรินะของทั้งกุศลและกุศลนี้ การให้ระยะห่างที่เหมาะสมในการปฏิสัมพันธ์กันระหว่างสงสอง73 เมื่อท่านพระอานนท์ทอดกลาบ ในเวลาวานะสักจุดรีนพวา พระจ้า ขัน อนพาขพระองค์จะฟังปฏิบัติในพระองค์แกรอย่างไร? จึงตรัสตอบว่า “อานนท์ พวกเธอสงฆ์พรหมทัณฑ์แต่ในกิเลสคำว่า “พระฉันนะนั้น เมื่อพระคราสนสดอดรีนพวา แล้วไง พรหมทัณฑ์ ที่พระองค์นกปรเกรบขึ้นแล้ว มีฤทธิ์ เสียง คือสนฌสบ 3 ครั้ง แล้ววงอนว่า “เข้าเท่าบุ่งญูร” ขอทน่อให้เทอมินายเลย ดั่งนี้แล้ว บำเพ็ญวัตรโดยชอบ ต่อกลาไม่มนานิกับบรรพระอธิฏิ พร้อมด้วยปฏิสัมภิทา หลายแล้ว ดั่งนี้เอง
ชุ.ธ. 41/2978-2985 (แปล.มธ) Chang Ahan Youxingjing 《長阿含遊行經》 T1: 26a
ครูธรรม 8 เป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้าบัญญัติหรือไม่ (1) 154