ข้อความต้นฉบับในหน้า
รวมพระธรรมเทศนา ด
- พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ไชยบูลย์ ธ ม ม ชโย)
5
คำว่า “คนดี” เป็นสิ่งที่ใครๆ ปรารถนาจะได้กันทั้งนั้น พระสัมมา
สัมพุทธเจ้าทรงให้หลักเอาไว้ว่า
“ผู้ที่มีความกตัญญูจึงจะเป็นคนดี” หรือ
“ผู้ถึงพร้อมด้วยศีล สมาธิ ปัญญา จึงจะเป็นคนดี” หรือ
“ผู้ที่ประกอบด้วยปัญญา ความบริสุทธิ์ ความกรุณา ถึงจะเป็นคนดี”
บางครั้งกล่าวว่า “สภาใด ถ้าไม่มีผู้มีธรรม หรือผู้ประพฤติธรรม ที่
นั้นไม่เรียกว่าสภา”
นั่นหมายความว่าต้องมีคนดี มีศีลมีธรรมเข้าไปประชุมร่วมกัน เพื่อ
ปรึกษาหารือ ทำประโยชน์สุขให้เกิดขึ้นแก่มวลมนุษยชาติ อย่างนี้จึงจะเรียก
ว่าสภา แต่ถ้าหากว่าไม่มีคนดี มีศีลมีธรรม จะเข้าไปอยู่ที่ไหนก็ตาม ที่นั้นไม่
เรียกว่าสภา
การที่เราจะดูว่าใครเป็นคนดี มีศีลธรรม ต้องดูกันนานๆ ดังนั้น จึง
เป็นการยากที่เราจะเลือกคนดีที่สมบูรณ์ เข้าสภา โดยอาศัยเวลาเพียงช่วงสั้นๆ
บางครั้งเป็นการเสี่ยงเหมือนกัน แต่ว่าเมื่อเราจะเสี่ยง ก็ต้องเสี่ยงอย่างมีหลัก
โดยยึดเอาบุญของเราเป็นหลัก
ถ้าเราเป็นผู้มีบุญ สั่งสมบุญเอาไว้มาก ถ้าทุกๆ คนในประเทศชาติได้
สั่งสมบุญเอาไว้ กระแสแห่งบุญนั่นแหละจะดลบันดาลให้เราพบปะแต่คนดี
พบคนดีที่แท้จริง แต่ก็ดีแบบทางโลกนะ จะให้บริสุทธิ์เหมือนสังข์ขัด คือบริสุทธิ์
บริบูรณ์ มีเงาใสกระจ่างอย่างนั้นคงยาก แต่ว่ามีดีมาก ไม่ดีน้อย สิ่งเหล่านี้
ขึ้นอยู่กับกำาลังบุญของเราทุกคน
ในการเลือกคนดี มีอีกวิธีหนึ่งที่ไม่ต้องเสี่ยง คือ เข้าไปพบคนดีที่มี
ความดีเป็นชั้นๆ คนดีมีถึง ๑๘ ชั้นเข้าไปอยู่ในกลางกายเรา ตั้งแต่คนดีใน
ระดับกายมนุษย์ละเอียด คนดีระดับกายทิพย์ คนดีระดับกายรูปพรหม คนดี
ระดับกายอรูปพรหม คนดีระดับกายธรรมโคตรภู คนดีระดับกายธรรมพระ