ข้อความต้นฉบับในหน้า
รวมพระธรรมเทศนา ด
- พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ไชยบูลย์ ธ ม ม ชโย)
62
ผู้ใหญ่บ้าน เห็นชายหนุ่มเหล่านั้นกำลังทำความดีกัน ก็เกิดความอิจฉา
ริษยา แทนที่จะอนุโมทนา กลับกลั่นแกล้ง เพราะตนไม่ได้รับผลประโยชน์
อะไรด้วย ถ้าคนเหล่านั้นยิงนกตกปลา แล้วซื้อเหล้ามาดื่มกิน เราก็จะได้ไป
ร่วมด้วย แต่นี่ทำอะไรก็ไม่รู้ เหนื่อยก็เหนื่อย เสียเวลาทั้งวัน ด้วยนิสัยที่เป็น
พาล
ผู้ใหญ่บ้านจึงขัดขวางการทำความดีของมาณพทั้งหลาย เพราะกลัว
ว่าหากชาวบ้านเกิดความเลื่อมใส แล้วตนเองก็จะไม่ได้เป็นผู้ใหญ่บ้านอีก อาจ
จะให้ชายหนุ่มเหล่านี้มาเป็นผู้นำแทน แต่ถึงแม้ผู้ใหญ่บ้านจะขัดขวางอย่างไร
ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ เขาเหล่านั้นยังคงทำความดีกันตามปกติ เพราะธรรมดาของ
บัณฑิตย่อมไม่หวั่นไหวในการสร้างความดี
ในที่สุด เมื่อห้ามไม่สำเร็จ ผู้ใหญ่บ้านเกิดความโกรธแค้น ได้หาอุบาย
ที่จะขจัดมฆมาณพและพวก จึงได้ไปเข้าเฝ้าพระราชา กราบทูลว่า
“ข้าพระพุทธเจ้า เห็นพวกโจรเป็นจำนวนมาก กำลังทำความเดือดร้อน
ให้ชาวบ้าน ขอให้พระองค์ได้ทรงส่งเจ้าหน้าที่ไปจับกุมด้วยเถิด พระเจ้าข้า”
พระราชายังมิทันได้ทรงพิจารณา จึงสั่งให้ราชบุรุษไปจับโจร แล้วให้
ลงโทษด้วยการให้ช้างเหยียบ แม้ช้างเป็นสัตว์เดรัจฉาน ก็ยังรู้คุณของมาณพ
เหล่านี้ จึงไม่กล้าเหยียบ
มฆมาณพได้บอกแก่เพื่อนๆ ว่า “สหายทั้งหลาย เว้นเมตตาธรรมเสีย
แล้ว ที่พึ่งอื่นของเราไม่มี ท่านทั้งหลาย อย่าได้ทำความโกรธเคืองในผู้
ไม่หวังดีต่อเราเลย จงมีเมตตาจิตต่อพระราชา และช้างที่กำลังจะเหยียบ
เราเถิด”
แม้ควาญช้างจะไสช้างเข้าไปหลายครั้งก็ตาม แต่ด้วยอานุภาพแห่ง
ความเมตตา ช้างนั้นจึงไม่เหยียบ พระราชาจึงสั่งให้เอาเสื่อลำแพนมาคลุม
พวกเขาไว้ เพราะคิดว่าช้างเห็นคนมาก จึงไม่กล้าเหยียบ ครั้นเอาเสื่อลำแพนมา
คลุมไว้ ช้างนั้นก็ยังไม่เหยียบอีก กลับเดินถอยหลังออกไป