ข้อความต้นฉบับในหน้า
รวมพระธรรมเทศนา ด
- พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ไชยบูลย์ ธ ม ม ชโย)
50
พุทธานุภาพ ไม่ให้พระมเหสีและคณะมองเห็นพระราชาและเหล่าอำมาตย์
เมื่อพระมเหสีพร้อมคณะเสด็จมาถึง พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดง
ธรรมให้ฟัง ทำให้พระมเหสีและคณะมีใจสงบหยุดนิ่ง เข้าถึงพระรัตนตรัย
บรรลุธรรมเป็นพระโสดาบัน ในขณะเดียวกันพระมหากัปปินะ และอำมาตย์หนึ่ง
พัน ได้ฟังพระธรรมเทศนาซ้ำอีกรอบหนึ่ง จึงได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ในที่นั้น
เอง
พระมหากัปปินะ เมื่อเข้าถึงกายธรรมอรหัตแล้ว ไม่ว่าพระองค์จะ
ประทับนั่ง นอน ยืน เดิน หรือจะพำนักใต้โคนไม้ บนกองฟาง หรือที่ใดก็ตาม
พระองค์มักจะเปล่งพระอุทานว่า “สุขจริงหนอ สุขจริงหนอ” อยู่เสมอๆ
พระภิกษุทั้งหลายที่ยังเป็นพระปุถุชน หรือเป็นสมมุติสงฆ์อยู่ ยังไม่รู้
จักความสุขอันประณีต ที่เกิดจากการเข้าถึงธรรม ต่างก็คิดว่าพระองค์ทรง
รำพึงถึงความสุข เมื่อครั้งยังเป็นพระราชาอยู่
พระบรมศาสดาทรงทราบเรื่องนั้น จึงตรัสว่า “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
บุตรของเรา ไม่ได้เปล่งอุทานถึงความสุขในครั้งที่เคยเสวยราชสมบัติ แต่ว่า
มีความสุขจากการได้เข้าถึงธรรมที่บังเกิดขึ้น บัดนี้ เธอได้บรรลุธรรมเป็นพระ
อรหันต์แล้ว” ครั้นตรัสรับรองดังนี้แล้ว ได้ตรัสต่อว่า
“บุคคลผู้เอิบอิ่มในธรรม มีใจผ่องใส ย่อมนอนเป็นสุข บัณฑิต
ย่อมยินดีในธรรม ที่พระอริยเจ้าประกาศแล้วทุกเมื่อ
ท่านสาธุชนทั้งหลาย บัญฑิตนักปราชญ์ในกาลก่อน เมื่อทราบการ
บังเกิดขึ้นของพระรัตนตรัยแล้ว ต่างก็ไม่รอช้า มุ่งที่จะแสวงหาว่า ทำอย่างไร
จะได้เข้าถึงพระรัตนตรัย พวกเราก็ควรจะเป็นเช่นนั้น บัดนี้ เรารู้แล้วว่า
พระรัตนตรัยอยู่ที่ตรงไหน จะเข้าถึงได้อย่างไร เหลืออย่างเดียว คือ ต้องลงมือ
ทำจริงๆ จังๆ หมั่นฝึกใจให้หยุด ให้นิ่ง ให้ได้ทุกๆ วัน เมื่อใจหยุดนิ่งได้สนิท
ดีแล้ว เราทุกคนก็จะได้พบที่พึ่ง และเข้าถึงความสุขที่แท้จริงภายในเช่นเดียวกัน