ข้อความต้นฉบับในหน้า
รวมพระธรรมเทศนา ๓
- พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ไชยบูลย์ ธ ม ม ซ โ ย)
29
จิตของตนให้เป็นไปในอำนาจ แล้วบำเพ็ญสมณธรรมเล่า”
สามเณรเดินต่อไป เห็นช่างศรกำลังเอาลูกศรลนไฟ เล็งด้วยหางตา
แล้วดัดให้ตรง จึงเรียนถามพระเถระว่า “พวกเขาทำอะไรกัน ขอรับ?”
พระเถระตอบว่า “เขาเอาลูกศรลนไฟ แล้วดัดให้ตรง” “แล้วลูกศรมี
จิตไหม ขอรับ?” พระเถระตอบว่า “ไม่มีจิต”
สามเณรคิดว่า “ถ้าคนทั้งหลายถือเอาลูกศรอันไม่มีจิต ลนไฟแล้วดัด
ให้ตรงได้ เพราะเหตุไรคนซึ่งมีจิตจะไม่อาจทำจิตของตนให้เป็นไปในอำนาจ
แล้วบำเพ็ญสมณธรรมเล่า”
ครั้นสามเณรเดินต่อไป เห็นช่างไม้กำลังถากไม้ เพื่อทำกงและดุมล้อ
เกวียน จึงเรียนถามพระเถระว่า “เขาถากไม้เพื่อทำอะไรกัน ขอรับ?” พระ
เถระตอบว่า “เขาถากไม้เพื่อทำล้อของเกวียน” สามเณรถามต่อ “แล้วไม้เหล่า
นั้นมีจิตไหม ขอรับ?” พระเถระตอบว่า “ไม่มีจิต”
สามเณรได้มีความคิดขึ้นมาว่า “ถ้าคนทั้งหลาย ถือเอาท่อนไม้ที่ไม่มี
จิต ทำเป็นล้อได้ เพราะเหตุไร คนผู้มีจิตจึงไม่อาจทำจิตของตนให้เป็นไป
ในอำนาจ แล้วบำเพ็ญสมณธรรมเล่า”
เมื่อสามเณรบัณฑิตได้เห็นสิ่งต่างๆ แล้วพิจารณาอย่างแยบคาย จึง
ได้กราบเรียนพระเถระว่า “กระผมจะขอกลับวัดก่อน ขอให้พระอาจารย์กรุณา
นำเอาอาหารที่มีปลาตะเพียนมาให้กระผมด้วย ขอรับ” พระเถระจึงถามว่า “เรา
จะหาได้จากที่ไหนล่ะ สามเณร?” สามเณรตอบ “หากไม่ได้ด้วยบุญของท่าน
อาจารย์ ก็คงจะได้ด้วยบุญของกระผม ขอรับ”
พระสารีบุตรทราบจุดมุ่งหมายของสามเณร จึงอนุญาตให้กลับ เมื่อ
สามเณรกลับมาถึงที่พักแล้ว ก็ตั้งใจบำเพ็ญสมณธรรม เจริญสมาธิภาวนา ทำ
ใจหยุดใจนิ่งอย่างแน่วแน่ ฝ่ายพระสารีบุตรได้บิณฑบาตไปจนถึงเรือนของ
อุปัฏฐากท่านหนึ่ง วันนั้นอุปัฏฐากได้ปลาตะเพียนมาหลายตัว จึงนำมาปรุง
เป็นอาหาร เมื่อเห็นพระเถระมาก็ดีใจ นิมนต์ให้ท่านรับบิณฑบาต ได้ถวาย