ข้อความต้นฉบับในหน้า
รวมพระธรรมเทศนา ๓
- พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ไชยบูลย์ ธ ม ม ชโย)
61
อาศัยในที่แห่งนั้น เขาก็จะเสียสละให้ด้วยความยินดี แล้วไปทำสถานที่ใหม่ให้
น่าอยู่อีก
เมื่อทำเสร็จมักจะมีคนมาขออยู่อย่างนี้เรื่อยๆ เขาไม่ได้นึกโกรธเลย
แต่กลับมองโลกในแง่ดี คิดว่า “ช่างน่าปีติใจจริงๆ ที่คนเหล่านี้มาพักอาศัย
อยู่ในที่ของเรา เราก็จะได้บุญไปด้วย”
วันรุ่งขึ้น เขาได้ถือจอบไปที่ลานหมู่บ้าน ไปดายหญ้า ปัดกวาดบริเวณ
นั้นให้เป็นที่อันน่ารื่นรมย์ ผู้คนที่เดินทางผ่านไปผ่านมา ต่างอยากจะมาพัก ผ่อน
ที่ตรงนั้น ครั้นฤดูหนาวมาถึง เขาได้หาฟืนมาก่อไฟให้ชาวบ้านผิงกัน เมื่อถึง
ฤดูร้อน เขาได้หาน้ำดื่มมาตั้งไว้ เพื่อให้ผู้คนที่เดินทางผ่านไปผ่านมาแถวนั้น
ได้ดื่มน้ำแก้กระหาย
ต่อมาเขาคิดว่า “เราควรจะสร้างศาลาให้แก่คนเดินทาง และทำหน
ทางให้เรียบร้อย” ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เขาได้ออกจากบ้านแต่เช้าตรู่ ถือจอบ
และมีดเที่ยวดายหญ้า ตัดกิ่งไม้ที่รกๆ และทำหนทางให้ราบเรียบ
อยู่แถวนี้”
เมื่อเพื่อนเดินผ่านมาเห็นเข้า ได้ถามว่า “สหายเอ๋ย มาเที่ยวทำอะไร
มฆมาณพตอบว่า “ฉันจะทำหนทางไปสวรรค์ของฉันนะสิ”
เพื่อนได้ฟังดังนั้น ก็ชื่นชมและเกิดความเลื่อมใสในเจตนาดีของเขา
เมื่อเห็นดีเห็นงามด้วย จึงได้ลงมือช่วยเหลืองานของมฆมาณพทันที
วันต่อมา มีเพื่อนซึ่งมีความคิดตรงกันกับมฆมาณพ มาช่วยงานเพิ่ม
มากขึ้น จากหนึ่งคน สองคน สามคน เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ จนรวมเป็น ๓๓ คน
ทุกวันพวกเขาจะพากันถือจอบ ถือมีด และอุปกรณ์ต่างๆ ออกจากบ้าน ด้วย
ใจที่ร่าเริง เบิกบาน แล้วช่วยกันทำถนนหนทางให้ราบเรียบ ทุกคนต่างก็ร่วม
แรงร่วมใจกันทำงานอย่างสนุกสนานเป็นบุญบันเทิง จนสามารถทำถนนไปได้
ไกลถึง ๒ โยชน์ หรือประมาณ ๓๒ กิโลเมตร