ข้อความต้นฉบับในหน้า
รวมพระธรรมเทศนา ด
- พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ไชยบูลย์ ธ ม ม ชโย)
54
และเทวาทั้งหลาย ต่างก็มาฟังธรรมจากพระองค์ จนมีดวงตาเห็นธรรมกันนับ
ไม่ถ้วน
เมื่อสาวกของพระองค์มีมากขึ้น พระพุทธศาสนาก็ได้แผ่ขยายกว้าง
ขวางออกไป เกียรติคุณก็ขจรขจายไปทั่วทั้งชมพูทวีป ทำให้พวกเดียรถีย์ ซึ่ง
เป็นนักบวชนอกพระพุทธศาสนาเสื่อมจากลาภสักการะ เป็นเช่นกับแสงของ
หิ่งห้อย ในยามที่อาทิตย์ส่องแสง ความศรัทธาที่พวกตนเคยได้รับก็ถดถอยลงไป
เพราะคำสอนที่ไม่มีแก่นสารสาระอะไรนั่นเอง
พวกเดียรถีย์เหล่านั้น จึงได้ป่าวประกาศให้มหาชนได้ทราบว่า “มิใช่
เพียงสมณโคดมเท่านั้นที่เป็นพระพุทธเจ้า แม้พวกเราก็เป็นพระพุทธเจ้า ทาน
ที่ถวายแก่สมณโคดมมีผลมากอย่างไร ทานที่ถวายแก่พวกเราก็มีผลมากเหมือน
กัน ท่านทั้งหลายจงมาถวายทานแก่พวกเราเถอะ”
ถึงจะเที่ยวป่าวประกาศอย่างไร คำพูดนั้นก็ไร้ผล ความศรัทธาและลาภ
สักการะก็ยิ่งเสื่อมถอยลงไปทุกวัน ในขณะที่พระพุทธศาสนากลับเจริญรุ่ง
เรื่องขึ้น มีผู้คนที่มีปัญญามานับถือกันมากมาย เพราะผู้ปฏิบัติต่างได้รับผล
ของการปฏิบัตินั่นเอง
พวกเดียรถีย์จึงประชุมกันว่า “พวกเราควรร่วมมือกัน หาอุบายใส่ร้าย
สมณโคดม เพื่อให้เกิดความมัวหมองขึ้น คนทั้งหลายจะได้ไม่เลื่อมใส แล้วกลับ
มาเป็นพวกของเราตามเดิม ลาภสักการะทั้งหมดก็จะตกเป็นของเรา”
ในกรุงสาวัตถี มีปริพาชิกา ชื่อว่า “จิญจมาณวิกา” นางเป็นหญิงรูปงาม
ความงามของนางเปรียบประดุจเทพอัปสรในสรวงสวรรค์ สวยงามจนมีรัศมี
เปล่งออกจากสรีระของนาง พวกเดียรถีย์เหล่านั้นจึงคิดที่จะใช้นางเป็นเครื่องมือ
ในการล้มล้างพระพุทธศาสนา
เมื่อจิญจมาณวิกาไปสู่สำนักของเหล่าเดียรถีย์ พวกเดียรถีย์ก็แกล้ง
กล่าวให้นางเห็นใจว่า “นี่เธอ พระสมณโคดมได้ทำให้พวกเราเป็นทุกข์ใจมาก
เราต้องเสื่อมจากลาภสักการะ ได้รับความลำบาก ถ้าหากเธออยากจะให้พวก