ข้อความต้นฉบับในหน้า
รวมพระธรรมเทศนา ด
- พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ไชยบูลย์ ธ ม ม ซ โ ย)
41
ทูลพระเจ้าพรหมทัต
พวกทหารของพระเจ้าพรหมทัตได้มาจับพระเจ้าที่มีติและพระมเหสี
มัดกับเครื่องพันธนาการ นำออกประจานตามทางสี่แพร่ง ลงโทษอย่างแสน
สาหัส บางทีก็เอาเชือกมัดมือทั้ง ๒ ข้าง แล้วให้ม้าวิ่งลากไป ทั้งสองพระ
องค์ได้รับความทุกข์ทรมานมาก
ในขณะนั้น ทีฆาวุกุมาร ซึ่งไปร่ำเรียนอยู่ที่ต่างเมือง เกิดความคิดถึง
พระบิดาพระมารดา จึงกลับมาเยี่ยมที่บ้าน เมื่อไม่พบจึงตามเข้าไปในแคว้นกาสี
ได้เห็นพระราชบิดาและพระราชมารดา กำลังถูกพวกทหารประจาน และได้
รับความทุกขเวทนาสาหัส จึงแหวกฝูงชนเข้าไปดูใกล้ๆ
เมื่อพระเจ้าทีฆัติทรงเห็นพระโอรสจึงตรัสขึ้น เพื่อให้ทรงได้ยินว่า
“อย่าเห็นแก่ยาว อย่าเห็นแก่สั้น” พระองค์ได้ตรัสอย่างนั้นอยู่ถึง ๒-๓ ครั้ง
ทีฆาวุกุมารเป็นคนมีปัญญา จึงทรงอดทนยับยั้งตนไว้
เมื่อฝ่ายเจ้าหน้าที่นำทั้งสองพระองค์ตระเวนไปทั่วเมืองแล้ว ก็นำไป
ประหารชีวิต และนำไปเสียบหลาวประจานไว้นอกเมือง
พระราชกุมารได้เอาพระศพมาถวายพระเพลิง จากนั้นก็ปลอมตัวเป็น
เด็กชาวบ้านคนหนึ่ง เข้ามาอยู่ในเมืองของพระเจ้าพรหมทัต ได้มาฝากตัวทำ
งานอยู่กับคนฝึกช้าง ทุกเช้าจะดีดพิณขับร้องด้วยเสียงอันไพเราะ พระเจ้า
พรหมทัตตื่นจากบรรทม ได้สดับเสียงอันไพเราะนั้นแล้ว เกิดความพอใจ จึง
ให้นำเด็กเลี้ยงช้างมาเข้าเฝ้า
เมื่อพระองค์ทอดพระเนตรเห็นทีฆาวุ ก็เกิดความเมตตารักใคร่ ทรง
โปรดปรานเป็นอย่างมาก ได้แต่งตั้งให้เป็นมหาดเล็ก รับใช้ใกล้ชิดพระองค์
ทีฆาวุก็ตั้งใจปฏิบัติราชการอย่างดี คอยสนองพระราชโองการด้วยดีตลอดมา
วันหนึ่ง พระเจ้าพรหมทัตโปรดให้ทีฆาวุกุมารเทียมราชรถ เพื่อเสด็จ
ไปทรงล่าเนื้อในป่า เมื่อเสด็จออกนอกเมือง ทีฆาวุได้บังคับม้าวิ่งไปด้วยความเร็ว