ข้อความต้นฉบับในหน้า
คลายกับเรานอนหลัง อย่าไปบีบหัวตา อย่าดีลูกนั่นตา หลับพอสมายๆ ขยับเนื้อขยับตัวของเราให้ดี กะคะเนเลือดลดในตัวของเราเดินได้สะดวก เราได้ไม่มีปวดไม่เมื่อย ขยับกันให้ดี ปรับให้เบาๆ สบายๆ
ความสบายนี้ เป็นหัวใจของการปฏิบัติธรรมที่เดียว สติ กับสบาย จะต้องไปคู่กัน ไม่ว่าเราจะปฏิบัติธรรมด้วยวิธีการอย่างไร จะปฏิบัติเบบไหน ก็ตาม หลักมืออย่าเวอร์ว่าจะต้องให้สติสัมปชัญญะ ไปคู่กัน อย่าให้แยกจากกัน สองอย่างนี้จําให้ดี
หลวงพ่อตาป่าน้ำ ท่านแนะให้กำหนดสมาธิเป็นดวงใสกับ บริกรรมภาวนา สม่ำเสมอจะระหว่าง ใจจะต้องไม่แผดจากบริการทั้งสองอย่างนี้ เรียกว่ามีสติ แต่วิธีการกำหนดสตินั้นต้องทำอย่างสบายๆ นี่สำคัญนะจ๊ะ สติ กับสบายทั้งสองนี้ จะต้องไปคู่กันตลอดเส้นทาง ตั้งแต่เบื้องต้นจนกระทั่งถึงที่หมายปลายทางเดียว ให้คำนึงไปอย่างสม่ำเสมอ ทำใจของเราให้สดชื่นผ่องใส เบิกบาน ด้วยใจที่เอือกเย็น ใจของเราจะได้รอสธิขึ้น
พระสัมมาสัมพุทธเจาทรงแนะหนทางแห่งความเมตตาธรรม เอาไว้ว่า มงฺมุนา ปฏิปทา ตกาเตน อภิสนฺทปฏา จตุภาคี อาณากรณี อุปมามาย อภิญญาย สมโภชา นิพฺพานาย สวดตติ.
หนทางสายกลาง พระตถาคตได้ตรัสแล้ว ด้วยปัญญาอันยิ่งเกิดธรรมกัดๆ เกิดความรู้ เผื่อเป็นไปเพื่อความเข้าไปลงแรงงั้นเพื่อความรู้ต้อง และเพื่อพระนิพพาน
หนทางในโลกนี้มีมากมาย ทั้งทางบก ทางน้ำและทางอากาศ แต่หนทางที่จะหลุดพ้นจากโลก หลุดพ้นจากภพ หลุดพ้นจากวัฏฏสงสาร มีเพียงหนทางเดียวเท่านั้น เรียกว่า “หนทางสายกลาง” หรือ “มัชฌิมาปฏิปทา” เป็นหนทางแห่งความเมตตาธรรม หลุดพ้นจากกฎแห่งกรรม พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาเดียวในโลก ที่ชี้แนะหนทางหลุดพ้น จากวงจรแห่งวัฏฏสงสารโดยสิ้นเชิง เพื่อให้บรรลุสุข อันเป็นอุตนธิรินิจรณา
มัชฌิมาปฏิปทา หรือหนทางสายกลาง พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแสดงไว้ใน “อัทมจักกัปปวัตตนสูตร” ธรรมจักร หรือจักรแห่งธรรม คือ