พระราชวานารำลึก: เรื่องราวของปติปูชิกา : หน้า 51/59

พระราชวานารำลึก(หลวงพ่อรุ่งงามโยม) 51 ของมาลาการีเทพบุตร จึงอยากจะกลับไปเกิดบนสวรรค์คือ เพราะรู้ว่าสวรรค์มีความสุขอันประณีตมากกว่ามนุษย์มากมาย เมื่อเติบโตขึ้น นางหมันทำบุญกุศลไม่ได้นาด ได้ถวายทานแด่พระภิษุสูงเมเป็นประจำ พอถึงวันพระ ก็ถวายอุปสศีก เข้าวัดฟังธรรมจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ขาด พออายุ 16 ปีแต่งงาน มีครอบครัวตามประสาชาวโลกทั่วไป แต่ว่าแต่ปล่อยอยู่เฉย ๆ คือ เวลานางทำบุญอิสาธิอยาก นางจะอธิษฐานจิตขอให้ได้ไปเกิดอยู่ร่วมกับสามีเทพบุตร ซึ่งอยู่บนสวรรค์ บางคนได้ยินก็ไม่เข้าใจ หาว่านางเสียดสิติพล้อจ้าง เพราะไม่รู้ว่า จะอธิษฐานอย่างนั้นไปทำไม ในเมื่อสามีคนปัจจุบันก็ยังมีชีวิตอยู่ ชาวบ้านจึงเรียกชื่อของนางว่า “ปติปูชิกา” หมายถึงหญิงผู้บูชาสมัยนี้เอง แต่นางก็ไม่ได้ใสใจอะไร ตั้งใจหาความดีเรื่อยไป ด้วยหวังว่าสักวันนางจะได้ไปเกิดอยู่ร่วมกับสามีเดิมบนสวรรค์ นางได้ใช้ชีวิตครอบครัวเรื่อยมา จนกระทั่งมีบุตรถึง 4 คนด้วยกัน แล้วได้แนะนำเส้นทางไปสู่สวรรค์ให้ลูก ๆ ด้วยการสอนให้มันทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา วันหนึ่งหลังจากที่นางล้มป่วยลงเท่านั้น ถึงแก่ความตาย นางได้กลับไปบังเกิดเป็นเทวธิดาอยู่กับมาลาการีเทพบุตรดังเดิม ซึ่งขณะนั้นเทพธิดาทั้งหลายกำลังประดับประดาดอกไม้ให้เทพตรัยในสวนนันทวัน เมื่อเทพบุตรเห็นนาง จึงถามว่า “เมื่อถึงเธอหายหน้าไปไหนมา” เทพธิดาตอบว่า “หมอฉันได้จุติจากสวรรค์ แล้วไปบังเกิดบนมนุษย์โลก” เทพบุตรเมื่อได้ฟังแล้วเกิดความสงสัย จึงถามต่อไปว่า “เธอลงไปเกิดในโลกมนุษย์ แล้วไปทำอะไรบ้าง มนุษย์ในโลกเขาทำอะไรกัน” นางจึงได้เล่าเรื่องที่ไปประสบมายังหมดให้ฟัง แล้วบอกว่า “มนุษย์ส่วนใหญ่มีความประมาทกันมาก คิดว่าอายุ 100 ปีนั้น ยาวนานเป็นสงไขยเหมือนกับว่าสมัยไม่ตายกัน” แต่หม่องฉันไม่ประมาณ ตั้งใจทำความดีอย่างเต็มที่ เพื่อจะได้กลับมาอยู่บนสวรรค์ร่วมกับท่านอีก"