ข้อความต้นฉบับในหน้า
58
(Thai text)
อุบลิกานั้นเกิดความรำคาญ จึงคิดไปว่า “เจ้าคราบกวนฉันหลายครั้งแล้ว ทำให้ฉันพึ่งธรรมไม่ได้ต่อเนื่อง โจรจะขนะอะไรไป ก็ให้เอาไปตามชอบใจเถิด ฉันจะฟังธรรม” แล้วก็ใครคนใช้น้ำบ้านไป
ฝ่ายหัวหน้าโจร ซึ่งแอบฟังอุบลิกายู่ เกิดความเลื่อนใสในความเดือดเดือด มีใจแน่นแน่ในการฟังธรรมของนางอย่างท่วมทัน จึงคิดว่า “ถ้าหากพวกเราเอาทรัพย์สมบัติของอุบลิกาผู้มีคุณธรรมสูงอย่างนี้ไป สายฟ้าคงจะฟาดลงกลางกระหมอของเราแน่” คิดดังนั้นแล้วก็รีบกลับไปส่งลูกน้องให้จนสมบัติเข้าไปเก็บไว้ในบ้านดั่งเดิม
พวกลูกน้องโจรต่างก็ถึงไปตามๆ กัน แต่เชื่อในคำสั่งหัวหน้า จึงพากันขนสมบิตกลับเข้าไปเก็บ แล้วพวกโจรทั้งหมดก็พากันไปวัดด้วย เพื่อดูว่าสิ่งที่ฟังธรรมอะไรยัง ทำไมางจึงสามารถสะสมได้แม้กระทั่งสมบัติ เมื่อไปแล้วต่างใใจนั่งฟังธรรมตลอดคืน จนกระทั้งอ่อนใสในพระรัตนตรัย
พอฟ้าสางมาโจรทั้งหมดก็ได้เข้าถึงไตรสรณะคนนี้ ขอบคุณเป็นพระกิณีในเช้าวันนั้นเลย ซึ่งกายหลังได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์กันหมด ส่วนมหาอุบลิกาได้บรรลุธรรมเป็นพระโสดาบัน
จะเห็นได้ว่า ถ้าเราจะธรรมจริงๆ รักษาที่จะเข้าถึงความสุขภายใน ละก็ แม้จะสูญเสียทรัพย์สมบัติไปเท่าไร ก็ย่อมแลกได้ ไม่ค่านึงถึงอุปสรรคใดๆ เลย
นี่ถ้าหากมาอุบลิกาท่านนี้หยุดฟังธรรมแล้วกลับบ้าน นอกจากจะไม่ได้บรรลุธรรมแล้ว ยังต้องถูกโจรฆ่าอีก ไม่ได้ทั้งโลภทรัพย์และอธิทรัพย์ แต่เพราะใจเข้มแน่นแน่นในการฟังธรรมอันประเสริฐ ไม่ยอมให้เหตุการณ์ที่หาโจรปล้นบ้านมาเป็นอุปสรรคเลย
นางยอมที่จะละทรัพย์ภายนอก เพื่อให้ได้มาซึ่งอธิทรัพย์ภายใน ทำให้ใครเกิดจิตเลื่อมใส หามาประพฤติ ปฏิบัติธรรมตาม นาง และออกบวชจนครบธรรมไปพร้อมๆ กัน นี้เป็นเครื่องแสดงให้เห็นว่า ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติดีธรรมเสมอ