ข้อความต้นฉบับในหน้า
พรະອົງພວນວັນມາຣຸທິ(หลวงพ่อສົມພຣະມອນຍິະ) 57
ในสมัยก่อน พุทธศาสนิกชนเป็นผู้ใคร่ในการฟังธรรมกันมาก เขาฟังธรรมกันตลอดทั้งคืน บางท่านถึงกับยอมละทิ้งสิ่งของอย่าง แม้ริษจะเข้า บ้านมาถโมโยทรัพย์สมบัติไม่สะดวกจะท่าน ไม่ยอมให้เสียโอกาสในการฟังธรรม เพราะเห็นว่าอริยทรัพย์นั้นประเสริฐกว่าโลภทรัพย์
เรื่องมือว่าสูญอุบลลาท่านหนึ่ง อยากฟังธรรมจาก พระลูกชาย คือ “พระโสณะฤาษีดำ” เพราะได้ยืนว่าท่านเคยแสดงธรรมเฉพาะพระพักตร์ พระบรมศาสดา พระองค์ทรงอนุโมทนา แม้แต่เทวดายังมาอนุโมทนาด้วย เมื่อามได้ยินข่าวว่า พระลูกชายมาแสดงธรรมที่วัดใกล้บ้าน คืนวันนางจึงตั้งใจว่าจะไปฟังธรรมให้ได้ พอถึงเวลาได้พาบริวารไปฟังธรรมที่วัด เหลือไว้แต่หญิงรับใช้อยู่บ้านเพียงคนเดียว บ้านของอุบลลาทนั่น ล้อมด้วยกำแพง ๗ ชั้น มีซุ้มประตู ๗ ซุ้ม แล้วยังเลี้ยงสุนัขไว้ในทุกๆ ประตูอีกด้วย พวกโจรทราบข่าวอุบลลิกัน บริวารไปด้วยกัน จึงได้ขุดดูโมงค์เข้าไปในบ้านของนาง แล้วหัวหน้าโจรไปดักรออยู่หน้าประตูวัด ตั้งใจว่าถ้าบุตรชายท่านนั้นรู้ว่า พวกโจรบุกเข้าไปในบ้านนางได้ และหากว่ามนุ่งหน้าาจะกลับบ้าน ก็จะฆ่ามังเสีย
เมื่อพวกโจรเข้าสำนักงานได้แล้ว ก็เปิดห้องเก็บสมบัติ ขนแก้วแหวนเงินทองกันใหญ่ สาใช้เห็นพวกโจรเข้ามา จึงรีบไปบอกอุบลลิกัน ซึ่งกำลังนั่งฟังธรรม จากพระลูกชายอยู่วัด นางฟังคำนองสาวใช้แล้ว แทนที่จะรีบกลับบ้าน นางกลับบอกว่า “ใครจะขนเอาของอะไรเข้าไปเดิน ฉันจะฟังธรรม เจ้าอย่ามาทำให้ฉันเสียอารมณ์ในการฟังธรรมเลย”
ฝ่ายพวกโจรพอขนสมบัติจากห้องหนึ่งเสร็จ ก็เปิดห้องเก็บสมบัติอีกห้องหนึ่ง สาวใช้ขึ้นก็รีบกลับมาอุบลลิกาอีกเป็นครั้งที่สอง อุบลลิกาก็ยังพูดเหมือนเดิม ใส่สาวใช้กลับบ้านไป ไม่ใส่ใจบึงทองเหล่านี้ ยังนั่งฟังธรรมเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนพวกโจรขนเงินทองของมีค่าออกจากบ้านไปจนหมด สาวใช้ทนไม่ได้ไหว รีบไปแจ้งให้ทราบอีก