นิสัยที่ไม่ดีและการสร้างบารมี DF 303 เครือข่ายองค์กรกัลยาณมิตร หน้า 124
หน้าที่ 124 / 128

สรุปเนื้อหา

บทความนี้สำรวจนิสัยที่ไม่ดีซึ่งเกิดจากกิเลส 3 พวกใหญ่ ได้แก่ โลภะ โทสะ และโมหะ การแก้นิสัยไม่ดีนั้นต้องทำดีด้วยการเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ไม่ว่าจะเป็นการทำทาน ศีล หรือภาวนา กลยุทธ์ในการสร้างบารมีนั้นจำเป็นต้องทำต่อเนื่องเพื่อเปลี่ยนแปลงนิสัยที่ไม่ดีให้หมดไป โดยการให้ความสำคัญกับการสร้างบารมีในแต่ละด้าน เช่น ปัญญา วิริยะ ขันติ และการรักษาสัจจะ เพื่อเป็นหลักในการปฏิบัติตนและเผยแผ่ โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างความดีให้เกิดขึ้นในตัวเองและผู้อื่น.

หัวข้อประเด็น

-นิสัยที่ไม่ดี
-กิเลส 3 ตัว
-การสร้างบารมี
-ทาน ศีล ภาวนา
-ปัญญาบารมี
-วิริยบารมี
-Cขันติบารมี
-เมตตาและอุเบกขาบารมี
-หลักการปฏิบัติตน

ข้อความต้นฉบับในหน้า

นิสัยที่ไม่ดีเกิดจากสิ่งที่มาบีบคั้นใจคือ กิเลส 3 พวกใหญ่ๆ ได้แก่ โลภะ โทสะ และโมหะ ที่ทำให้ เกิดการย้ำคิดย้ำพูด ย้ำทำในทางที่ไม่ดี จนสั่งสมกลายเป็นโปรแกรมที่ไม่ดีติดตนมา วิธีแก้ก็คือให้ย้ำคิด พูด ย้ำทำ ในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับกิเลส 3 ตัวนั้น คือ ทาน แก้ไขโลภะ ศีล แก้ไขโทสะ และภาวนา แก้ไขโมหะ แต่โดยทั่วไป เวลาที่คนเราทำความไม่ดี มักจะเอาชีวิตเป็นเดิมพันไปทำ แต่ทำความดีมักจะไม่ทำ เช่นนั้น จึงไม่สามารถแก้ไขนิสัยที่ไม่ดีได้ ซึ่งหากต้องการแก้ไขนิสัยที่ไม่ดีอย่างจริงจัง (เพราะนิสัยไม่ดี ทำให้ชีวิตของตนเองและผู้อื่นต้องเดือดร้อน) ก็จะต้องทำความดี โดยการเอาชีวิตเป็นเดิมพัน นั่นคือ การสร้างบารมี ค) หัวข้อนี้เป็นประเด็นน่าสนใจ กล่าวคือ ท่านได้กล่าวว่า วัดพระธรรมกายสอนเรื่องการสร้างบารมี โดยสรุปย่นย่ออยู่ในรูปของ ทาน ศีล และภาวนา โดยทานบารมี คือการทำทานแบบเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ศีลบารมีและเนกขัมมบารมี คือการรักษาศีลแบบเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ส่วนบารมีอีก 7 ประการ คือ ปัญญา สัจจะ วิริยะ ขันติ อธิษฐาน เมตตา และอุเบกขา จัดอยู่ในการทำภาวนาแบบเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ซึ่งในแง่ ของทาน ศีล เนกขัมมะ บารมี คุณสรกานต์ ศรีตองอ่อนมีความเห็นว่าพอจะมองภาพออก แต่บารมีอีก 7 ข้อ ที่จัดอยู่ในภาวนานั้น เป็นสิ่งที่น่าศึกษา จึงจะขยายความในส่วนนี้ กล่าวคือ ปัญญาบารมีนั้น ท่านกล่าวว่า “เพราะฉะนั้น อยากได้ปัญญา บทสรุปสุดท้ายต้องภาวนามยปัญญา การหาครูเป็นเรื่องการเอาทฤษฎีดีๆ มา แล้วลงมือปฏิบัติ ได้ครูกำกับแล้ว ตนเองปฏิบัติเอง ปฏิบัติไปก็ ก้าวสู่ภาวนามยปัญญา นี้คือปัญญาบารมีตัวจริง” วิริยบารมีและขันติบารมีนั้น ท่านอธิบายในลักษณะที่ว่า จะต้องอาศัยกำลังใจในการกระทำ ซึ่ง กำลังใจจะเกิดขึ้นได้เต็มที่ก็ด้วยการภาวนา โดยความแตกต่างระหว่างวิริยะกับขันติคือ “วิริยะเป็นลักษณะ ลุยเดินหน้า แต่เมื่อเจออุปสรรคต้องเอาขันติมาใช้ เดินหน้าต่อไม่ได้แต่ก็ไม่ถอยแม้ครึ่งก้าว ปักหลักอยู่ ตรงนั้นพยายามต่อไป” สัจจบารมี คือความจริงใจที่จะสร้างบารมีเพื่อให้เข้าถึงธรรมะภายในตน ซึ่งจะเข้าถึงได้ก็ด้วย การทําภาวนา อธิษฐานบารมีคือการวางแผนสร้างบารมีแบบข้ามภพข้ามชาติจะวางแผนได้รัดกุมต้องระลึกชาติได้ นั่นหมายถึงญาณทัศนะต้องเกิด ซึ่งการภาวนาต้องดีมาก เมตตาบารมี ถึงที่สุดคือการแผ่เมตตาในสมาธิ ซึ่งการภาวนาต้องดี อุเบกขาบารมี สุดยอดของอุเบกขาคือการทำภาวนา ถึงตรงนี้ กล่าวได้ว่า วิธีการสร้างบารมีของวัดพระธรรมกาย ที่ใช้เป็นหลักในการปฏิบัติตน และ เผยแผ่ ได้สรุปย่นย่ออยู่ในรูปของบุญกิริยาวัตถุ 3 คือ ทาน ศีล ภาวนา แต่เป็นการกระทำแบบ(ตั้งใจ) เอาชีวิตเป็นเดิมพัน และทำอย่างต่อเนื่องให้กลายเป็นนิสัยที่ดี เพื่อแทนที่นิสัยที่ไม่ดีให้หมดไป บ ท ที่ 8 ก า ร ส ร้ า ง บ า ร มี ข อ ง วัด พระ ธ ร ร ม ก า ย DOU 115
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More