ข้อความต้นฉบับในหน้า
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) 117
ผู้ที่ได้ชื่อว่าแทนคุณมารดาบิดาอย่างแท้จริง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า คือผู้ที่ :-
ทำมารดาบิดาที่ไม่มีศรัทธา ไม่เชื่อในรัตนตรัยให้มาเชื่อ
ทำมารดาบิดาที่ไม่มีศีล ให้มีศีลขึ้น
ทำมารดาบิดาที่ไม่มีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ให้เลื่อมใสขึ้น
ทำมารดาบิดาที่ไม่รู้จักบาปบุญคุณโทษให้ได้รู้จักบาปบุญ
ผู้หญิงก็สามารถแทนคุณได้ เช่น วันพระ พามารดาบิดาไปวัด รักษาศีล
อานิสงส์ที่ลูกชายบวช มารดาบิดาเป็นเจ้าภาพให้ลูกบวชเณรได้ 4 กัปป์ รวมกับที่ให้บวชพระ
อีก ๑๖ กัปป์ รวมเป็น ๒๔ กัปป์
กัปป์หนึ่ง คือ ภูเขากว้างโยชน์สูงโยชน์ ๑๐๐ ปี มีเทวดาเอาผ้าทิพย์เนื้อละเอียดมาลูบลงที่
ยอด นั้นครั้งหนึ่ง ทำเช่นนี้ทุก ๑๐๐ ปี จนภูเขาสึกด้วยผ้าถึงพื้นดิน
อีกนัยหนึ่ง สระกว้างโยชน์ลึกโยชน์เป็นสี่เหลี่ยมจตุรัส ทุก ๑๐๐ ปี มีเทวดาเอาเมล็ดพันธุ์
ผักกาด มาทิ้งลงเมล็ดหนึ่ง จนกระทั่งเมล็ดพันธุ์ผักกาดเต็มสระ
ตัวอย่าง :
พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช แม้สร้างเจดีย์ ๘๔,๐๐๐ นับสมบัติ ๙๖ โกฏิ นับเป็นบุญที่ยังไม่มี
พุทธศาสนูปถัมภ์ใดทำมากเท่า เพื่อจะได้ชื่อว่าเป็นญาติกับพระศาสนา แต่พอได้ทราบจากพระโมค
คัลลานะ ว่าการที่จะได้เป็นญาติกับพระศาสนานั้น ต้องให้ราชกุมารและราชกุมารีบวชในพระพุทธ
ศาสนา ก็ดีพระทัย เปลี่ยนพระทัยไม่ปรารภให้ลูกครองสมบัติ แต่ได้บวชเป็นอายุพระศาสนา ในที่สุด
จึงได้เป็นญาติกับพระพุทธศาสนา
ส่วนพวกเราที่มาอนุโมทนาบุญ ก็เป็นญาติในพระศาสนาด้วยความคุ้นเคย
ตัวผู้บวชได้รับอานิสงส์มากมาย ตั้งแต่อานิสงส์ปัจจุบัน เรียก สามัญผล คือ ใครๆ ก็ต้องมา
กราบไหว้ เคารพเป็นกระถางธูป วิเศษประเสริฐนัก ในอดีตครั้งพุทธกาล ใครก็ไม่เอาผิดนักบวช ให้
อภัยทีเดียว
ส่วนอานิสงส์ชั้นสูงเป็นอายุพระศาสนา ท่านกล่าวไว้ว่า มหิทธิโก มหานุภาโว มีฤทธิ์
ศักดานุภาพ มีเดชมาก จะเนรมิตแผ่นดิน ฯลฯ ได้ ถ้าจะจารจารึกไปจนกระทั่งเขาพระสุเมรุเหี้ยนหด
หมดไป ยังไม่หมดอานิสงส์
“ต้นธาตุท่านส่งสมบัติมาให้ผู้นี้เป็นตัวประกาศศาสนา ไม่ช้าหรอกจะได้รู้
เรื่องกัน ในประเทศญี่ปุ่นกับไทย ผู้ที่จะเป็นที่พึ่งของเขาได้มาเกิดปรากฏขึ้นแล้ว
เป็นภิกษุบวชใหม่นี้แล้ว”