ข้อความต้นฉบับในหน้า
118 สาระสำคัญพระธรรมเทศนา
๓๔
กรณียเมตตสูตร ๑
(คุณธรรม ๑๔ ประการ)
๒๕ พฤษภาคม ๒๔๙๗
นโม.....
กรณียมตถกุสเลน......
พระสูตรนี้ พระพุทธเจ้าทรงแสดงในเรื่องจิตแผ่เมตตาไปยังสัตว์ ทรงรับสั่งให้ภิกษุ ภิกษุณี
อุบาสก อุบาสิกา ยึดพระอริยะเป็นแบบอย่างในการทำตัวเองให้บริสุทธิ์ทั้งกาย วาจา ใจ จึงได้ชื่อว่า
ประกอบด้วยเมตตา เป็นสาวกของพระศาสดาที่แท้จริง
สาวกของพระพุทธเจ้ามี ๒ จำพวก
Q.
ปุถุชนสาวก ตั้งแต่ยังไม่ได้ธรรมกาย แต่บริสุทธิ์กาย วาจา ใจ จนถึงพวกได้ธรรมกายโคตรภู
และปฏิบัติตามแนวพระอริยะ
๒. อริยสาวก ตั้งแต่เริ่มเป็นพระโสดา พระสกทาคา พระอนาคา พระอรหัต
ตามพระบาลีกล่าวว่า
กรณียมตุถกุสเลน ฯ กิจอันใดอันพระอริยบุคคล ผู้บรรลุบทอันระงับกระทำแล้ว กิจอันนั้น
กุลบุตรผู้ฉลาดในประโยชน์ควรกระทำ
ผู้ฉลาดในประโยชน์เป็นเช่นไร ?
Q.
6. สกโก เป็นผู้อาจหาญ อาจหาญทุกประการในธรรมวินัยของพระศาสดา ไม่ขาดตกบกพร่อง
คือ อาจหาญในทางบริสุทธิ์กาย วาจา ใจ ซึ่งเป็นความดีส่วนเดียว ก่อนจะกระทำสิ่งใด พูด หรือ คิด
สิ่งใด ใช้ปัญญาสอดส่องดูก่อนว่าไม่เดือดร้อนตนและผู้อื่น ถ้าเป็นโจรปล้นประเทศต่อประเทศปะทะ
กัน เป็นอาจหาญของคนพาล เป็นเรื่องเหลวไหล
๒. อุชู เป็นผู้ชื่อ ในกาย วาจา ใจ ทั้งข้างนอก ข้างในตรงกันหมด
๓. สุทชู เป็นผู้ตรงดี คือ ประคองใจของตนให้ตรงสู่ทางมรรคผล
๔. สุวโจ ว่านอนสอนง่าย ไม่ดื้อต่อทางมรรคผล ให้ปฏิบัติธรรมก็ทำได้ตรงธรรม อยู่ในธรรม
พระวินัยเสมอ
คนดีเป็นนักปราชญ์ อยู่กับใครเบาใจ ภิกษุสามเณรอยู่กับครูบาอาจารย์ก็เย็นอกเย็นใจ ลูก
หญิงลูกชายก็เช่นกัน ว่านอนสอนง่าย เป็นคนทำธรรมวินัยให้เจริญ เป็นคนเจริญในธรรมวินัยของ
พระบรมศาสดา
๕. มุท “เป็นผู้อ่อนละมุนละไม”ตามความปรารถนาของผู้ฝึกหัด เป็นที่สบายใจ ของครูบา
อาจารย์และพ่อแม่ แต่ไม่ใช่อ่อนโยเย