สาระสำคัญพระธรรมเทศนาเกี่ยวกับความเพียรเลวและความสำรวม ๖๙ กัณฑ์หลวงปู่วัดปากน้ำ กัณฑ์ที่ ๓๑-๔๕ หน้า 30
หน้าที่ 30 / 44

สรุปเนื้อหา

บทความนี้กล่าวถึงความเพียรเลวซึ่งทำแต่ความชั่วด้วยกาย วาจา ใจ ทำให้คนไม่พ้นจากมารที่จ้องรังควาน ถ้าหากมีการสำรวมในอินทรีย์ทั้ง 5 จะทำให้สามารถหนีมารได้ โดยพระบาลีระบุว่า มารไม่สามารถรังควานผู้ที่สำรวมได้ เรียกได้ว่าเมื่อคนรู้จักประมาณในการใช้สอยอาหาร และมีศรัทธา จะทำให้พระธรรมของตนดีขึ้น เมื่อผู้คนสามารถสำรวมได้พร้อมทั้งมีเข้าใจในความไม่งามของโลก ก็จะไม่ถูกมารรังควานได้ง่าย ๆ เช่นเดียวกับภูเขาที่ไม่สะเทือนจากลม การมีสติในแต่ละด้านของชีวิตจึงเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันอันตรายจากมารและสร้างชีวิตที่มีคุณค่า

หัวข้อประเด็น

-ความเพียรเลว
-การสำรวมในอินทรีย์
-ผลของการสำรวม
-การใช้สอยอย่างมีประมาณ
-โทษและคุณของอาหาร

ข้อความต้นฉบับในหน้า

138 สาระสำคัญพระธรรมเทศนา ๓.๒ คนมีความเพียรเลว (ห็นวีริย์) คือ ทำแต่ความชั่วด้วยกาย วาจา ใจ ถึงจะเพียรไป ก็ มีแต่ให้โทษ “ในจำพวกเหล่านี้ ได้ชื่อว่าไม่พ้น มารย่อมรังควานได้ เป็นลูกมือของพญามาร มารจะ ต้องการอย่างไร ก็ได้สมความปรารถนาของมารทุกสิ่งทุกประการ จะให้ครองเรือนเสียตลอดชาติ ไม่ขยันจำศีลภาวนา ก็ต้องเป็นไปตามอำนาจของมาร จะให้ไปดูมหรสพต่างๆ ตามใจมาร บังคับ ให้ เป็นไปตามอัธยาศัยของมารแท้ๆ” ตามบาลี : วาโต รุกข์ว ทุพพลนฺติ ฯ เหมือนลมเมื่อพัดมาแต่เล็กน้อยเท่านั้น ต้นไม้ที่ใกล้จะทลายอยู่แล้ว ไปกระทบลมเข้าจากทิศ ทั้ง ๔ แต่อย่างใดอย่างหนึ่ง ก็โค่นล้มลงไปง่ายๆ เพราะมันใกล้จะล้มอยู่แล้วนั้น ถ้าว่าสำรวมได้เสียแล้วก็เป็นคนดี ภิกษุก็เป็นภิกษุดี สามเณรก็เป็นสามเณรดี อุบาสกดี อุบาสิกาก็เป็นอุบาสิกาดี เพราะความสำรวมเสียได้ ดังพระบาลี อสุภานุปสฺส วิทรนต์ อินทริเยสุ สุสวุฒิ ฯ แปลได้ความโดยย่อว่า มารย่อมรังควานบุคคลนั้นไม่ได้เพราะสำรวม เพราะเห็นตามอารมณ์อันไม่งามอยู่ สำรวมแล้วในอินทรีย์ทั้งหลาย รู้จักประมาณในโภชนะเครื่องใช้สอยกิน มีศรัทธา ปรารภความเพียร นั่นแหละมารรังควานไม่ได้ เหมือนลมซึ่งจะพัดภูเขาอันล้วนแล้วด้วยหิน ให้สะเทือนไม่ได้ ฉันนั้น ผู้สำรวมได้เป็นอย่างไร ? อุบาสก ก็เป็น คือผู้เห็นตามอารมณ์ว่าไม่งามอยู่ทั้งรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส คือ เห็นว่าไม่งาม มีเกิดมีดับ ตัวไม่มีจริง รูปงามไม่มี เสียงไพเราะไม่มี รส กลิ่นหอม สัมผัสนั้นล้วนเป็นของหลอกลวง จึงสำรวมด้วย : - ๑. สำรวมในอินทรีย์ทั้ง 5 โทษ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ สำรวมได้หมดยังประโยชน์ให้สำเร็จหนักขึ้น ถ้าสำรวมไม่ได้ก็ให้ ๒. รู้จักประมาณการใช้สอยปัจจัย ๔ ๒.๑ อาหาร ในครั้งพุทธกาลและหลังพุทธกาล บางท่านจะตั้งใจสำรวมเรื่องอาหารมาก ถึง กับใช้เครื่องตวงอาหารบ้างก็กำหนดด้วยอาหาร เช่น ข้าวสาร ข้าวสุก ให้บริโภคพอในเขตที่ สำรวมของตน บางท่านใช้ประมาณท้องอิ่มจึงหยุด หรือหย่อนอิ่ม แล้วดื่มน้ำตาม ให้ท้องไม่เฟ้อ ประสงค์ ให้ธาตุย่อยง่าย สิ่งใดให้โทษแก่ร่างกายก็งด ถ้าให้คุณก็รับแต่พออิ่ม ตามสะดวกแก่ร่างกายอย่างสำรวม แล้ว แต่ธาตุธรรมของตน เช่น คนแก่ชอบมะระ แต่เด็กบอกว่าขม ๒.๒ รู้จักกระเหม็ดกระแหม่ผ้าสำหรับใช้สอย มิฉะนั้นจะต้องเป็นหนี้เป็นบ่าวเขาทีเดียว
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หน้าหนังสือทั้งหมด

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More