ข้อความต้นฉบับในหน้า
122 สาระสำคัญพระธรรมเทศนา
ผู้ประกอบด้วยเมตตา จึงตั้งจิตไว้อย่างไร ?
บุคคลผู้ประกอบด้วยเมตตา จึงตั้งจิตเช่นเดียวกับมารดาที่พร่าชีวิตตัวเองแทนบุตรได้ ฉันใด
ให้รักใคร่ในบุคคลอื่นเหมือนกับลูกของตน ฉันนั้น กิริยาของจิตเช่นนั้นได้ชื่อว่าเป็น “พรหมวิหาร” ใน
พุทธศาสนา
“ให้จำแม่ลูกอ่อนรักลูกไว้ ถ้าไม่เป็นแม่ลูกอ่อน ไม่รู้รสชาติของจิตนี้ จิตดวงนี้เป็นจิตดวงสำคัญ”
ใช้จิตดวงนี้เป็น ก็หมั่นทำใจหยุด แก้ไขใจตนเอง แผ่เมตตาออกไปโดยจิตที่เอิบอาบ ซึมซาบ
รักใคร่ รูป เสียง ต่อลูกในอุทรที่เกิดใหม่ ให้ทั่วแก่คนอื่นเท่ากันทุกคน รวมทั้งสัตว์อื่นทั้งหลายในวัฏฏ
สงสาร ทั้ง ๒ เท้า ๔ เท้า เท้ามาก ไม่มีเท้า ฯลฯ เมตตารักใคร่ มีของอะไรก็ให้
บุคคลเจริญเมตตาในใจไม่มีประมาณในสัตว์ทั้งเบื้องบน เบื้องต่ำ เบื้องขวาง พ้นจากเบื้องบน
เบื้องต่ำ เบื้องขวาง แผ่ไปเช่นนี้เป็นธรรม ไม่คับแคบไม่มีเวร ไม่มีภัย ไปข้างไหนก็สบาย ไม่ต้องมี
ศัสตราอาวุธ ไม่มีศัตรู ไปไหนมีแต่คนรักใคร่ ยืน เดิน นอน นั่ง เป็นสุข ไม่มีง่วงเหงาหาวนอน มี
สุขส่วนเดียว และเข้าถึงความเป็นพระโสดาบัน
“มีฤทธิ์นัก ถ้ารู้จักใช้ถูกส่วนแล้วละก็ มีฤทธิ์มีเดชมากมายนักนะ จะมีคน
รักใคร่มากมาย นับประมาณไม่ได้ ถ้าใช้ถูกส่วนถ้าว่าผู้ทำจิตเป็น ทำใจหยุดนิ่งได้
ก็แก้ไขใจของตัวได้ ไปแค่ไหนก็แก้ไขแค่นั้น แก้ให้รักใคร่สัตว์โลกเหมือนอย่างกับ
แม่ลูกอ่อนที่รักลูกที่เกิดใหม่ๆ โคก็ดีรักลูกที่เกิดใหม่น่ะ ใครเข้าไปขวิดทีเดียว จิต
ดวงนั้นสัตว์ดิรัจฉานก็ยังใช้ในลูก ให้จำจิตดวงนั้นไว้ทำให้เป็นขึ้นเถอะ บุคคล
นั้นแหละจะทำอะไรในมนุษยโลกสำเร็จหมด จะสร้างประเทศก็สำเร็จ สร้างวัด
สร้างวาเป็นสำเร็จหมด ใช้อย่างนั้นแหละ คนต้องมาช่วยทำให้สำเร็จทุกประการ
เมื่อเข้าถึงซึ่งความเป็นพระโสดาปัตติมรรค แล้วจึง
กาเมสุ ฯ ควรนำความหมกมุ่นในกามทั้งหลายไปเสีย
ความหมกมุ่น คือ กิเลสที่เกี่ยวข้องด้วยกาม ทำให้พรหมวิหารเสีย มารดารักลูกใหม่ ด้วย
“เมตตา” รักใคร่จะให้เป็นสุข ด้วย “กรุณา” อยากจะช่วยลูกให้พ้นทุกข์ “มุทิตา” เมื่อลูกเดินได้นั่งได้
คลานได้ เลี้ยงตัวได้ ก็ยินดีด้วย หรือถึงความวิบัติพลัดพรากเหลือวิสัยช่วย ก็อยู่ใน “อุเบกขา”
ประกอบด้วย พรหมวิหารแท้ๆ ไม่มีกามเข้ามาปนเลย จึงเรียกว่า บิดามารดาเป็นพรหมของบุตร
พระพุทธเจ้าก็เป็นพรหมของบุตร
มารดาบิดาเป็น “บุรพาจารย์” (อาจารย์เป็นเบื้องต้น) ของบุตร เพราะสอนบุตรมาก่อนใคร
บุตรเลี้ยงดูมารดาบิดาได้ชื่อว่า เลี้ยงดูพระอรหันต์แท้ๆ
“วัดปากน้ำถ้าจะพลิกวิชชานี้ ก็จะใช้จิตอย่างชนิดนี้ก็ไม่รู้ยาก มีจำนวนผู้รู้
ใน ทางธรรมปฏิบัติใช้จิตเป็น ๑๕๐ กว่าคนแล้ว ในพวกเหล่านี้พอทำเข้าก็เป็นทุกคน
ไม่สู้ยาก ถ้าว่าทำจิตยังไม่เป็นแล้วก็ทำยากอยู่ ได้ธรรมกายแล้วจะให้อัศจรรย์
อย่างไร ก็เมตตาพรหมวิหารตั้งเข้าไปซิ ตั้งแต่เมตตาพรหมวิหารดังกล่าวแล้ว