ข้อความต้นฉบับในหน้า
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) 119
“อาการที่อ่อนละมุนละไม เป็นภิกษุหรือสามเณร อยู่กับครูบาอาจารย์
ครูบาอาจารย์ก็เย็นอกเย็นใจ เหมือนคนแก่ได้พบข้าวละมุนละไมเข้า
5. อนติมานี “ไม่เย่อหยิ่งจองหอง” สามารถฟังคำตักเตือนได้ ไม่มีอติมานะ เช่น ลูกไม่ทำ
เย่อหยิ่ง จมูกปิดใส่พ่อแม่ ภิกษุสามเณร ถูกว่าเล็กๆ น้อยๆ ก็สิกขาลาเพศ
๗. สนฺตุสสโก เป็นผู้สันโดษ ยินดีในปัจจัยตามมีตามได้ ไม่ทำบุคคลผู้เลี้ยงให้เดือดร้อน
๔. สุภโร เป็นผู้เลี้ยงง่าย กินโดยเคารพ ไม่สุรุ่ยสุร่าย ไม่กระสับกระส่าย มีอย่างไรก็ใช้อย่าง
นั้น เหมือนอย่างม้าหรือช้างเลี้ยงง่าย เขาเทียบด้วยม้าอาชาไนย เจ้าของจะให้หญ้าสดก็เคี้ยว หญ้า
สด ให้หญ้าแห้ง รำ ข้าวสุก ข้าวตาก ก็เคี้ยวกินตามหน้าที่ กินจริงๆ กินจนอิ่ม เมื่อเขาเลี้ยง
อย่างไรล่ะก็บริโภคอย่างนั้น จืดนัก มันมีเค็มก็ผสมกันเข้า ไม่ต้องยุ่งเรียกโน่นเรียกนี้
๙. อปปกิจโจ “เป็นผู้มีธุระน้อย” ไม่เป็นพวกหากิจให้ยุ่งแก่อัตภาพร่างกาย เพราะจะไม่เจริญ
ในธรรมวินัยของพระศาสดา อุปัชฌาย์อาจารย์เบื่อภิกษุ สามเณรที่มีธุระมาก กิจธุระไม่จบ ถ้าว่า
นอกจากธรรมวินัยของพระศาสดาไปแล้ว มีบ้างเล็กน้อย ไม่หากิจให้มีธุระมาก
๑๐. สกุลหุกวุตติ ประพฤติเบากายเบาใจ คล่องแคล่วไม่มีห่วงมีใย บริขารน้อย วาจาไม่มี
กังวล ปลอดโปร่ง ไม่กังวลห่วงใย “ประพฤติเบากาย กายก็เบา ประพฤติเบาใจ ใจก็เบา”
๑๑. สนฺตินฺทริโย เป็นผู้มีอินทรีย์สงบแล้ว ทั้ง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ถ้ายังลอกแลกยังเป็น ที่
ไว้วางใจในพุทธศาสนาไม่ได้ หลวงพ่อวัดปากน้ำเล่าเรื่อง ผู้เทศน์บอกพระอุปัชฌาย์ให้ตั้งเจ้าคณะ
หมวดองค์หนึ่ง ว่าควรจะได้เป็นอุปัชฌาย์แล้ว ท่านอาจารย์องค์นั้นตอบว่า ตายังไวเช่นนั้น คุณจะตั้ง
มันอย่างไร ? ตั้งมันก็ทำลายเสียเช่นนั้น อ้ายตาไวก็ชอบกลอยู่เหมือนกัน และอยู่มาหน่อยหนึ่ง
เจ้าคณะหมวดองค์นั้นก็สึกไปเสียเลยจริงๆ
๑๒. นิปปโก เป็นผู้มีปัญญา ประพฤติตัวเรียบร้อย ไม่กระทบกระเทือนใคร แล้วต้องไปชักชวน
คนอื่นที่ประพฤติเรียบร้อยเช่นกันมา มีพวกมากเข้าก็ดูแลกันเอง
ผู้มีปัญญา แก้ไขเอาหมู่พวกได้เช่นนั้น ถ้าหากว่าเป็นภิกษุก็ได้เป็นคณาจารย์องค์หนึ่ง เป็น
อุบาสกก็ได้เป็นหัวหน้า พุทธศาสนาประสงค์คนมีปัญญา บำบัดโทษประกอบประโยชน์
พระพุทธเจ้าตรัสกับธรรมิกอุบาสกว่า ท่านผู้ดำเนินคติของปัญญา เกษมอย่างนี้ ก็จะเอาตัว
รอดได้ วิธีหาเงินหาทองหาแปลกๆ พลิกแผ่นดิน ต้นไม้ ทะเล แท้จริง เงินทองอยู่ที่คน พระเจ้า
แผ่นดินปกครองหมดประเทศ เรียกเงินใช้ไม่หวาดไม่ไหว พระพุทธเจ้าท่านเห็นลึกซึ้งว่า ศาสนาอยู่ได้
ด้วยข้าวปากหม้อ พอฉันแล้วก็ทำกิจพุทธศาสนาจริงๆ เราก็รักษากาย วาจา ใจ บริสุทธิ์ ตามแนว
ท่าน แล้วหาพวกมาดูแลกันเอง ฉลาดอย่างนี้เป็นภิกษุ อุบาสก อุบาสิกาได้ตลอดชาติ
๑๓. อปปคพโภ ไม่คะนอง คือ ไม่คอยรับสัมผัส หรือ สอดไปหมดทั้งตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
สำรวมกาย พูดโดยซื่อตรง ใจคิดแต่ในธรรมในวินัย ไม่ลอกแลก ไม่เหลวไหล ไม่หลุกหลิก เช่น นั่ง
อยู่ไม่ปกติ กระดิกนิ้ว กระดิกมือ วาจาร้องเพลง เอาเรื่องเหลวไหลมาพูด
๑๔. กุเลสุ อนนุคิทโธ เป็นผู้ไม่พัวพันในสกุลทั้งหลาย เพราะจะเกิดทะเลาะวิวาท อิจฉาริษยา กัน