ข้อความต้นฉบับในหน้า
ศาสนา-ประเพณี วัฒนธรรม
จากสกุลต่างๆ กัน พอบวชแล้วก็ถือเป็นสกุลเดียวกัน คือลูกพระพุทธเจ้า
นี่ก็เป็นเหตุผลในมุมมองหนึ่ง
ถ้าจะว่าจริงๆ ถามว่าจุดธูป จุดเอาอะไร ก็บอกว่าจุดเอา
ความหอม ปู่ย่า ตายายเวลาทำธูป ก็อาศัยทั้งกำยาน ทั้งกฤษณา
ท่านเอาของหอมสารพัดชนิดมาผสมกัน จุดแล้วก็หอมดี แต่ขณะนี้หา
ธูปหอมจริงๆ เหมือนสมัยโบราณหายากเหมือนงมเข็มในมหาสมุทร
เพราะเดี๋ยวนี้ส่วนมากเขาใช้ขี้เลื่อยผสมกับกาวแล้วไปพอกกับก้านธูป
เอาหัวน้ำหอมมาหยดๆ ลงไปหน่อย เพราะฉะนั้นมันเลยหอมตอนยัง
ไม่จุด พอจุดแล้วกลับมีกลิ่นฉุนแสบจมูก เดี๋ยวนี้ธูปนอกจากไม่หอมแล้ว
เวลาจุดยังมีกลิ่นแสบจมูก แถมมีควันมากอีกด้วย
ที่วัดพระธรรมกายเลยปักธูปไว้เฉยๆ ไม่ได้จุด ธูปหอมๆ อย่าง
ตำราโบราณเราทำไว้ใช้เองในวัดเหมือนกัน แต่ทำไว้ใช้ในงานใหญ่ เช่น
วันมาฆบูชาที่จะถึงนี้ก็สั่งทำไปแล้ว ธูปดอกหนึ่งใหญ่ขนาดลำแขน จุด
แล้วต้องให้คุ้ม ให้หอมไปทั้งวัด ปีหนึ่งเลยจุดไม่กี่ครั้ง ในเมื่อจะจุดเอา
หอมก็ต้องให้หอมจริงๆ
สำหรับเทียน สมัยปู่ ย่า ตา ยาย ท่านทำเทียนหอม แต่เดี๋ยว
นี้เทียนหอมก็หายาก ที่วัดพระธรรมกายใช้เทียนหอม ซึ่งทำเตรียม
เอาไว้แล้วกว่าร้อยกิโลกรัม จะจุดในวันมาฆบูชา ก็พยายามเตรียมทุก
อย่างไว้ให้เรียบร้อยถูกต้องตามพิธี แต่เทียนทั่วไปเดี๋ยวนี้ไม่หอม เลย
ไม่จุดในวันที่ไม่ใช่วันสำคัญ ไม่ใช่ไม่รักษาธรรมเนียม แต่ก็เป็นอย่างที่
ว่ามานี้ เพราะฉะนั้นถึงวันสำคัญทางศาสนา โดยเฉพาะวันมาฆบูชา
ขอให้มาเวียนเทียนร่วมกันที่วัดพระธรรมกายเถอะ รับรองได้จุดเทียน
หอมด้วยมือตนเองกันทุกคน
ห ล ว ง พ่ อ 55
ตอบ ปั ญ ห า