ข้อความต้นฉบับในหน้า
ศาสนา-ประเพณี วัฒนธรรม
กระด่างแล้ว ยังมีกลิ่นตัวเหม็นสาบฉุนๆ อย่างกับกลิ่นห้องน้ำติดตัวไป
ระวังไว้ก็แล้วกัน
ในสมัยพุทธกาล มีกษัตริย์อยู่พระองค์หนึ่ง เป็นกษัตริย์ที่ผิด
จากกษัตริย์ทั่วไป คือมีพระปรีชาสามารถฉลาดเฉลียวดี อะไรๆ ก็ดี
ทุกอย่าง แต่ว่ารูปร่างอัปลักษณ์ ผิวพรรณหยาบกร้าน หน้าดำอย่าง
กับถ่านไปแถบหนึ่ง คือเป็นปานดำครึ่งหน้า ก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กัน
ในหมู่พระภิกษุว่า พระองค์มีเวรมีกรรมอะไรกัน มีบุญได้เป็นถึงกษัตริย์
แต่ว่าหน้าดำเป็นเปาบุ้นจิ้น ก็มีการระลึกชาติตามไปดู
ในที่สุดก็พบว่าภพในอดีตเป็นคนมีความปรารถนาดี ชอบทำ
บุญทำทาน ช่วยกิจการงานวัด ช่วยกิจการสงฆ์ โดยเฉพาะชอบช่วย
งานโรงครัวของวัดมาก เข้าไปช่วยเขาหุงข้าวหุงปลาเลี้ยงพระ แต่ว่า
ไม่รักษาความสะอาดให้ดี ปล่อยให้ควันรมพระพุทธรูป รมศาลา รม
อะไรต่ออะไรในวัด ให้เลอะเทอะเปรอะเปื้อนไปหมด แต่ก็มีความ
ปรารถนาดีมีใจเป็นบุญเป็นกุศล
เพราะฉะนั้น บุญที่ทำเอาไว้จึงส่งผลให้มาเป็นกษัตริย์ แต่
ความสะเพร่าที่ทำเอาไว้ก็ส่งผลมาในเวลาเดียวกัน หน้าเลยดำไปแถบ
หนึ่ง
นี่ก็คือคำตอบว่าทำไมบางคนหน้าเป็นปานดำ หว่านพืชเช่น
ไรได้ผลเช่นนั้น ถ้าเป็นไฟเม็ดเล็กหน่อยก็ชุ่ยน้อยหน่อย ชนิดที่ว่าบาง
วันอารมณ์ดีก็ทำเสียดีทีเดียว วันไหนขี้เกียจก็ทำแบบชุ่ยส่งไปเลย
จึงได้มาเป็นเม็ดเป็นไฝเปรอะหน้า เรื่องนี้ก็มีที่มาอย่างนี้แหละ ขอให้
ระมัดระวังกันให้ดีนะ
พระภาวนาวิริยคุณ 84 (เผด็จ ทั ต ต ชีโว)