ข้อความต้นฉบับในหน้า
ศาสนา-ประเพณี วัฒนธรรม
๕๔. ภิกษุณีปัญหา
หลวงพ่อคะภิกษุณีจะมีอีกได้ไหม ?
เคยมีผู้แสดงความคิดเห็นว่าในการพัฒนาบุคลากรของชาติ
และศาสนา ผู้หญิงเก่งๆ ขณะนี้มีอยู่เป็นจำนวนมาก ถ้าได้มาบวชเป็น
พระ ก็น่าจะช่วยทำให้งานพระศาสนารุดหน้าไปอีกกว้างไกล และคง
จะทำให้สังคมมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
เรื่องนี้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงคิดไว้แล้ว พระพุทธศาสนา
อยู่ในลักษณะของบริษัทใหญ่ อันประกอบด้วยหุ้นส่วน ๔ หุ้น คือภิกษุ
ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา
ภิกษุณีนั้นมีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล แต่ว่าสูญไปนานแล้ว จน
สิ้นเชื้อสาย จะกลับมารื้อฟื้นบวชใหม่ก็ทำไม่ได้ เพราะไม่มีภิกษุณีเป็น
อุปัชฌาย์บวชให้ การบวชของพระภิกษุก็เหมือนกัน ถ้าปล่อยให้พระภิกษุ
หมดไปจากโลกในวันใด วันต่อมาถึงใครอยากบวช ก็ไม่รู้จะบวชอย่างไร
เพราะไม่มีเชื้อสายเหลืออยู่
สมมติว่าในภายภาคหน้า โลกนี้ไม่มีพระภิกษุแม้แต่รูปเดียว
แต่มีผู้ไปอ่านพระไตรปิฎก พบว่าพระภิกษุเป็นอย่างไร แล้วเกิดอยาก
บวชเป็นพระภิกษุขึ้นมา ก็คงทำไม่ได้ เพราะไม่มีผู้บวชให้ ถ้าเขาคว้า
จีวรมาห่ม แล้วประกาศว่าฉันเป็นพระภิกษุอย่างนี้ได้ไหม ก็ไม่ได้ผิดวินัย
ซึ่งตัวคนนั้นจะรู้ตัวเองว่าไม่ใช่พระ คงพอนึกภาพออกนะ
เช่นกัน ภิกษุณีได้หมดไปจากพุทธศาสนจักร เมื่อประมาณ พ.ศ.
๓๐๐ ก็เลยไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป ครั้นจะมาบวชอีกก็ยาก เพราะ
ตามพุทธบัญญัติ ต้องอาศัยปวัตตินี คือภิกษุณีเถรีที่ทำหน้าที่เป็นพระ
อุปัชฌาย์ของภิกษุณีบวชให้ด้วย จึงจะถูกต้องตามพุทธบัญญัตินะ
พระภาวนาวิริยคุณ 122 (เผด็จ ทัตตชีโว)