การครองตนและผู้มีราตรีเดียว หลวงพ่อตอบปัญหา เรื่อง การครองตน หน้า 62
หน้าที่ 62 / 118

สรุปเนื้อหา

ในพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า 'ผู้มีราตรีเดียว' หมายถึงบุคคลที่ทำงานอย่างขยันและไม่เลื่อนออกไป. พระพุทธเจ้าทรงแนะนำให้ผู้ปฏิบัติให้ความสำคัญกับการทำงานในปัจจุบัน โดยไม่ยึดติดกับความสำเร็จหรือล้มเหลวในอดีต รวมถึงไม่วิตกกังวลเกี่ยวกับอนาคต เพราะทั้งสองอย่างนั้นจะทำให้เกิดทุกข์. ข้อมูลเพิ่มเติมที่ dmc.tv

หัวข้อประเด็น

-ความหมายของผู้มีราตรีเดียว
-ความสำคัญของความเพียร
-การทำงานในปัจจุบัน
-การไม่ยึดติดกับอดีต
-การไม่วิตกกังวลอนาคต

ข้อความต้นฉบับในหน้า

การครองตน ๒๔. ผู้มีราตรีเดียว ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า “ผู้มีราตรีเดียว” นั้นแปลว่าอะไร ครับ ? พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า “บุคคลพึงทำความเพียรเสีย ในวันนี้ ใครเล่าจะรู้ความตายในวันพรุ่ง เพราะว่าความผิดเพี้ยน กับมัจจุราชผู้มีเสนาใหญ่นั้น ย่อมไม่มีแก่เราทั้งหลาย พระมุนีผู้สงบ ย่อมเรียกบุคคลผู้มีปรกติอยู่อย่างนี้ มีความเพียรไม่เกียจคร้านทั้ง กลางวันและกลางคืนนั้นแลว่า ผู้มีราตรีเดียว” ในเชิงปฏิบัติ ผู้มีราตรีเดียวหมายถึงบุคคลใดก็ตามเมื่อมีงาน ในหน้าที่มาถึงแล้ว จะไม่ยอมผัดวันประกันพรุ่ง รอเวลาไว้เมื่อนั่นเมื่อ นี่ ปล่อยให้งานการคั่งค้างเสียหาย เหมือนคนเกียจคร้าน แต่จะรีบ ตั้งหน้าทำงานให้สำเร็จลุล่วงไปโดยเร็ว แทบจะเรียกว่าไม่ให้ข้ามคืน พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเน้นว่า ไม่ว่าเราจะทำงานในทาง โลกหรือทางธรรมก็ตาม จะต้องไม่เป็นคนที่ห่วงหน้าพะวงหลัง คือ จะไม่เอาเรื่องความสำเร็จในอดีตมายึดถือให้เกิดความประมาทลำพองใจ หรือเอาความล้มเหลวในอดีตมาทำให้ท้อถอย เพราะเรื่องที่ผ่านไปแล้ว ย่อมไม่มีทางเรียกกลับคืนมาอีก และสถานการณ์ต่างๆ ก็เปลี่ยนไปแล้ว ในเวลาเดียวกันก็ไม่เอาเรื่องในอนาคตมาด่วนวิตกกังวลจน เกินเหตุ ทำให้กลายเป็นทุกข์กินเปล่า เพราะเรื่องต่างๆ อาจจะไม่ หนักหนาสาหัสอย่างที่เราหลงกังวลก็ได้ และเราก็ไม่ควรคิดเพ้อฝัน มากเกินไปจนกลาย เป็นคนเพ้อเจ้อ ความจริงแล้วเรื่องในอนาคตที่ เราสร้างมโนภาพไว้มันอาจจะไม่เกิดขึ้นเลยก็ได้ พระภาวนาวิริยคุณ 62 (เผด็จ ทั ต ต ชีโว)
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More